นายอำเภอ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ลุยตรวจวัดดังสุพรรณบุรี โดนแฉซุกกัญญาไว้อื้อ แจงพนง.ขายวัตถุมงคลเป็นคนทำ วัดไม่เกี่ยว พอรู้รีบแจ้ง ผกก.โรงพักทันที

จากกรณีมีเพจแฉวัดดังใน จ.สุพรรณบุรี ซุกกัญชาแห้งบรรจุถุงกว่า 300 กิโลกรัม ในอาคารโดยมีข้อมูลจากคนในชุมชนระบุ จากคลังวัตถุมงคล กลายเป็นคลังเก็บกัญชา มีทั้งกระบวนการบรรจุและจัดจำหน่ายอย่างเป็นระบบ มีสติกเกอร์ใบกัญชาพร้อมจำหน่าย พร้อมตั้งคำถามวัดนี้เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือค้ายาหรือไม่

ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 23 พ.ค.2568 นายรัชกฤช พยัคฆ์ นายอำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี นายนเรศ หนูทอง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางตาเถร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอบต. ร่วมกันเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดไผ่โรงวัว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

มีนายบำรุง ซึ่งเป็นไวยาวัจกร วัดไผ่โรงวัว ชี้แจงว่าวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังเจ้าอาวาสทราบว่ามีกัญชาในวัดได้ประสานตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต. เข้ามาร่วมตรวจสอบพบกัญชาประมาณ 15 ถุง คาดว่าไม่เกิน 20 กก. ไม่ใช่ 300 กิโลกรัมตามข่าว พบว่าเป็นของนางเขมวิภา เจ้าหน้าที่จำหน่ายวัตถุมงคลของวัด โดยบอกว่าได้รับมาจากมูลนิธิแห่งหนึ่ง อ้างว่ามูลนิธินำกัญชามาทำเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ป่วย ซึ่งผิดกฎมหาเถระสมาคม วัดไม่มีส่วนรู้เห็นแต่เป็นลักลอบนำเข้ามาบรรจุ จึงให้นำออกในคืนวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา

แต่นางเขมวิภา อ้างไม่สะดวกและขนออกไปในตอนเช้าเพื่อนำส่งคืนมูลนิธิ ซึ่งได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าเขาลักลอบกระทำโดยไม่เกี่ยวข้องกับวัด และเจ้าอาวาสเองทำหนังสือไปถึงมูลนิธิฯขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงการนำกัญชาเข้ามาบรรจุภายในวัดจริงหรือไม่ หากมอบหมายจริง ขอให้แจ้งชื่อพนักงาน ปริมาณกัญชา และจำนวนครั้ง วัตถุประสงค์ แนวทางในการนำกัญชาไปแจกจ่ายเกี่ยวข้องกับมูลนิธิท่านหรือไม่ โดยขอให้ทำหนังสือชี้แจ้งกลับมา เบื้องต้นยังไม่ได้รับหนังสือ มีแต่การตอบกลับมาทางเสียงว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องเท่านั้น ส่วนนางเขมวิภาได้ให้ออกจากวัดไปแล้ว เรื่องการบริหารจัดการวัด เรื่องเงินต่างๆวัดเรามีคณะกรรมการ ไม่มีใครเกี่ยวข้องแน่นอน ทุกคนมาทำด้วยใจ สามารถตรวจสอบบัญชีวัดได้

ด้านนายอำเภอสองพี่น้อง ระบุ เจ้าอาวาส และกรรมการวัดไผ่โรงวัว ได้ชี้แจ้งแล้วกัญชาที่พบเป็นของนางเขมวิภา เป็นผู้สั่งเข้ามาและสั่งให้นายหนุ่ม สามีเป็นผู้ขนมามอบให้คนงานในคลังบรรจุ วัตถุประสงค์เพื่อนำส่งมูลนิธิแห่งหนึ่ง ใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำกัญชามาทำเป็นยารักษาโรคได้ คณะกรรมการ เจ้าอาวาสวัดไผ่โรงวัว และคณะที่ตรวจพบได้ปรึกษาทางกฎหมาย อาจผิดกฎมหาเถรสมาคม หรือกฎหมายได้ เพื่อให้วัดเป็นแหล่งปลอดกัญชา จึงให้นางเขมวิภา พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง รีบขนกัญชาออกจากวัดไปคืนมูลนิธิฯโดยด่วน โดยคืนนั้นมีงานวัดและค่อนข้างดึกแล้ว นางเขมวิภาฯ ขอขนกัญชาในตอนเช้าวันที่ 13 และได้ขนออกไปในวันนั้นทั้งหมด

นายอำเภอ กล่าวต่อว่า วัดไผ่โรงวัวทำหนังสือไปยังประธานมูลนิธิเพื่อตรวจสอบว่า ได้มีการมอบหมายให้นางเขมวิภานำกัญชามาดำเนินการตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ปัจจุบันยังไม่ได้ตอบหนังสือกลับมา แต่ได้รับทราบด้วยวาจาของประธานมูลนิธิฯว่า ไม่ได้มอบหมายให้นางเขมวิภาดำเนินการ ดังนั้นวัดจึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางตาเถร ซึ่งคณะกรรมการวัดชี้แจงต่อ ว่าเจ้าอาวาส ไวยาวัจกร และกรรมการวัดฯ ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจหรือมีส่วนร่วมตามที่โลกออนไลน์เผยแพร่

โดยวันนี้คณะที่ทำการตรวจสอบ ได้ขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดฯ พระลูกวัด และกรรมการวัด ตรวจหาสารเสพติดประเภทกัญชา และเมทแอมเฟตามีน ทางปัสสาวะ ด้วยชุดตรวจเบื้องต้นของสำนักงานสาธารณสุข รวมตรวจปัสสาวะพระทั้งหมด 30 รูป กรรมการวัด 4 คน ผลเป็นลบ ทั้งหมด ส่วนตำรวจได้แจ้งให้นางเขมวิภา พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาพบเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งได้นำกัญชาที่ปรากฏในข่าวไปให้ตำรวจที่ สภ.บางตาเถร 15 ถุง ถุงละประมาณ 6-7 กก.รวม 116 กก. น้ำหนักชั่งที่ สภ.บางตาเถร โดยอยู่ในระหว่างสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป ถ้าผิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน