วันที่ 19 เม.ย. ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีพ่อและแม่พาลูกสาววัย 18 ปี ซึ่งอ้างว่าถูกเจ้าของหอพักข่มขืน เข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.(หญิง) ภัทรียา ปานนิ่ม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่ได้เข้าแจ้งความไว้แล้วเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน เพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบและเรียกร้องให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักอย่างถึงที่สุด
ผู้เป็นพ่อได้เปิดเผยว่า ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้เดินทางมาเรียนพิเศษที่ อ.หาดใหญ่ ในช่วงปิดเทอม โดยเช่าห้องอยู่กับเพื่อนอีกคนที่หอพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จากนั้นเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่11 เม.ย. ฝักบัวห้องน้ำในห้องพักเกิดเสีย ลูกสาวจึงได้ไปแจ้งให้เจ้าของหอพักมาซ่อม ซึ่งช่วงนั้นลูกสาวอยู่ในห้องคนเดียวเพราะเพื่อนมีเรียนตอน 7 โมงเช้า โดยเจ้าของหอพักซึ่งมีอายุประมาณ 40 ปี ได้หิ้วกระเป๋าเครื่องมือช่างขึ้นไปซ่อมให้ โดยมีลูกสาวอยู่ภายในห้องด้วย
ระหว่างนั้นเจ้าของหอพักได้เรียกลูกสาวให้ไปช่วยบิดน็อตอ้างว่ามือใหญ่ล้วงเข้าไปไม่ได้ แต่ขณะกำลังเอื้อมมือเข้าไป ก็ถูกเจ้าของหอพักใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าจี้ที่เอวจากด้านซ้ายจนล้มลงและอ่อนแรง ก่อนที่จะถูกอุ้มตัวไปข่มขืนบนเตียงนอน โดยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หลังจากนั้นลูกสาวจึงได้โทรศัพท์ไปหาตน และได้พาเข้าแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ และในวันนี้ได้พาลูกสาวไปให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งรอยแผลที่ถูกชอร์ตและร่องรอยการถูกข่มขืน ซึ่งต้องรอผลตรวจอีกระยะหนึ่ง ขณะที่ขั้นตอนทางคดีทราบว่าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเจ้าของหอพักที่ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ และได้ติดต่อจะเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว
พ่อของเหยื่อสาว กล่าวอีกว่า คดีนี้ต้องการให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักโดยเร็วที่สุด เนื่องจากรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาว เพราะขณะนี้สุขภาพจิตย่ำแย่มาก เมื่อพูดหรือมีคนถามเรื่องนี้จะร้องไห้ทันที และหลังจากนี้จะพาไปพบจิตแพทย์อีกครั้งหนึ่งเพื่อช่วยดูแลสภาพจิตใจ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการเรียนด้วย
