สถานีโทรทัศน์นิวเดลี รายงานวันที่ 23 เม.ย. ถึงคดีความรุนแรงทางเพศต่อเด็กในอินเดีย ล่าสุดเกิดขึ้นที่เมืองสาลีปุระ รัฐโอริศา ทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ถูกคนร้ายข่มขืน บีบคอ ก่อนจะทิ้งร่างไว้ในสภาพปางตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 เม.ย ทั้งที่รัฐบาลอินเดียเตรียมนำโทษประหารชีวิตมาใช้จัดการกับผู้ต้องคดีข่มขืนอีกครั้ง
ตำรวจระบุว่า เด็กหญิงเดินออกจากบ้านไปซื้อขนมขบเคี้ยว ขณะที่ครอบครัวรอลูกสาวกลับมาบ้าน เกิดกระแสไฟฟ้าดับในหมู่บ้าน แต่ลูกสาวยังไม่ถึงบ้าน ครอบครัวจึงกังวลและออกค้นหาลูกสาว โดยมีชาวบ้านในหมู่บ้านช่วยค้นหาด้วย
ภายหลังค้นหา 1 ชั่วโมง พบเด็กหญิงนอนหมดสติและไม่สวมเสื้อผ้าอยู่ในพื้นที่โรงเรียนของหมู่บ้าน โดยมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะและปาก จึงนำตัวส่งสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลเขตคัตแท็กในเวลาต่อมา
แพทย์ระบุว่า เด็กหญิงวัย 6 ขวบ มีอาการขั้นวิกฤต บาดเจ็บที่ศีรษะ ใบหน้า ลำคอ ทรวงอก และบริเวณจุดซ่อนเร้น
ส่วนคนร้ายถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 22 เม.ย. เป็นชายวัย 25 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับเหยื่อ โดยปู่ของเด็กหญิงแจ้งความดำเนินคดี และตำรวจแจ้งข้อหาคนร้ายฐานกระทำชำเราและพยายามฆ่า
นายประทับ เยนา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ประจำรัฐโอริศา เดินทางไปเยี่ยมเด็กหญิงที่โรงพยาบาลแล้ว พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้ทีมแพทย์จากหลายสาขาวิชาชีพกำลังระดมรักษาเด็กหญิงแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายนเรนทรา โมที นายกรัฐในอินเดีย เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติมาตรการลงโทษประหารผู้ต้องคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งนายกฯ จะลงนามบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า หลังถูกสังคมกดดันอย่างหนักจากกรณีล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเกิดกรณีกลุ่มชายทรชนชาวฮินดูรุมโทรมฆ่าเด็กหญิงชาวมุสลิมวัย 8 ขวบ ในแคชเมียร์
