อินดิเพนเดนต์รายงานความฉงนสนเท่ห์ของเหล่านักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เมื่อเครื่องบินขององค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐอเมริกา หรือนาซ่า ซึ่งปฏิบัติภารกิจค้นคว้าวิจัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือพบวงกลมปริศนาบนพื้นน้ำแข็ง นักวิทยาศาสตร์หาคำอธิบายยังไม่ได้

นายจอห์น ซอนน์แท็ค นักวิจัยนาซ่าที่กดชัตเตอร์เก็บภาพนี้มา กล่าวว่า ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม โดยวงกลมเหล่านี้ปรากฏขึ้นมาชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วก็หายไป

ดร.วอลต์ เมียร์ นักวิจัยจากศูนย์ศึกษาหิมะและน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือ ระบุว่า ที่เห็นเป็นวงกลมใหญ่สีจางๆ น่าจะเป็นน้ำทะเลที่เอ่อท้นขึ้นมาจากช่องที่พวกแมวน้ำเจาะขึ้นมาหายใจ

หรืออาจตรงกันข้ามคือเป็นน้ำที่ขังอยู่บนหิมะก่อนจะค่อยๆ ละลายแล้วทำให้แผ่นน้ำแข็งกลายเป็นรูโหว่ลงไปหาทะเลเบื้องล่าง

ดร.คริส ชูแมน จากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา มองว่า ระดับความลึกที่บริเวณดังกล่าวนั้นค่อนข้างตื้น ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีน้ำพุร้อนใต้ทะเลที่จุดนี้ หรืออาจเป็นน้ำบาดาลที่ไหลใต้ธารน้ำแข็งมาจากหุบเขาแต่มาโผล่อยู่ที่จุดนี้

ความเป็นไปได้อีกอย่างคือ เป็นกระแสน้ำอุ่นจากแม่น้ำแม็กเคนซีในประเทศแคนาดาที่ไหลมาถึงจุดนี้กลายเป็นแอ่งน้ำ

วันเดียวกัน มีรายงานว่า นักวิจัยยังพบมลพิษจากอนุภาคพลาสติกขนาดเล็ก หรือไมโครพลาสติกที่อาร์กติกมากกว่าที่คาดไว้เดิมเป็น 3 เท่า

จากการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลในขั้วโลกเหนือพบไมโครพลาสติกประมาณ 12,000 ชิ้นต่อลิตร สร้างความกังวลให้นักวิทยาศาสตร์ว่าไมโครพลาสติกเหล่านี้อาจบริโภคโดยสัตว์อื่นในท้องถิ่น

ดร.อิลคา พีเค็น หนึ่งในทีมนักวิจัย กล่าวว่า มลพิษที่พบนั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการเข้าถึงของมนุษย์อย่างชัดเจน และน้ำทะเลในโลกทั้งหมดน่าจะปนเปื้อนไมโครพลาสติกไปหมดแล้ว

ขณะที่การค้นหาต้นตอของไมโครพลาสติกเหล่านี้พบว่ามาจากทั้งเรือประมงในแถบแคว้นไซบีเรียของรัสเซีย และแพขยะใหญ่แปซิฟิก (Great Pacific Garbage Patch) ที่มีขยะกองรวมกันจากกระแสน้ำกว่า 80,000 ตัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน