เอพีรายงานว่า เมื่อ 8 พ.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา แถลงถอนอเมริกาออกจากข้อตกลงฉบับประวัติศาสตร์ในสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ที่ทำไว้ระหว่างอิหร่าน กับสหรัฐ รวมถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และจีน ให้อิหร่านยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ นายทรัมป์ยังประกาศกร้าวว่าจะนำมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านกลับมาใช้ใหม่อีก ชาติใดก็ตามที่จะช่วยอิหร่านผลิตอาวุธนิวเคลียร์จะต้องถูกสหรัฐลงโทษ

ผู้นำสหรัฐลงนามยุติข้อตกลงดังกล่าว โดยไม่สนใจคำทักท้วงจากพันธมิตร ไม่ว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือเยอรมนี อ้างว่าเป็นข้อตกลงที่เน่าเฟะและเปื่อยยุ่ย เป็นสัญญาฝ่ายเดียวที่เลวร้าย สร้างความอับอายให้ตนในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง

เป็นที่ชัดเจนสำหรับผมว่า เราไม่สามารถหยุดยั้งระเบิดนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ ภายใต้โครงสร้างที่ผุพังของข้อตกลงปัจจุบัน ดังนั้น ผมกำลังประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐจะถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน” นายทรัมป์กล่าว

President Donald Trump walks off after delivering a statement on the Iran nuclear deal. (AP Photo/Evan Vucci)

ทางการอิหร่านเตือนก่อนหน้านี้ว่า หากสหรัฐยุติข้อตกลงดังกล่าว สหรัฐจะต้องเสียใจกับการกระทำนี้อย่างสาสม และทันทีที่นายทรัมป์แถลงถอนตัว นายฮัสซัน เราฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านประกาศเริ่มเปิดเครื่องเสริมสมรรรนะยูเรเนียมที่ใช้ได้ทั้งกับพลังงานนิวเคลียร์และอาวุธนิวเคลียร์

“สหรัฐแถลงแล้วว่าจะไม่เคารพต่อข้อตกลง ดังนั้นผมจึงแจ้งไปยังองค์การพลังงานปรมาณูอิหร่านให้พร้อมสำหรับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับอุตสาหกรรม” ผู้นำอิหร่านกล่าว

นายฮัสซัน เราฮานี (Iranian Presidency Office via AP)

ด้านผู้นำชาติยุโรป นางเธเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ขอให้อิหร่านอดกลั้นและเดินหน้าทำตามข้อบังคับในข้อตกลงเดิมไว้ก่อน เช่น การให้ความร่วมมือกับทีมตรวจสอบนานาชาติ นอกจากนี้ทั้งสามมหาอำนาจยุโรปยังขอให้รัฐบาลนายทรัมป์หลีกเลี่ยงการกระทำที่จะขัดขวางการบังคับใช้ข้อตกลงของชาติอื่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน