เมื่อวันที่ 8 พ.ค. เว็บไซต์ข่าว เดอะซัน รายงานว่า นางสาวเซียร์ร่า ร็อก อายุ 22 ปี จากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา แบ่งปันประสบการณ์ที่เธอป่วยโรคอะนอเร็กเซียตั้งแต่อายุ 10 ปี โดยเธอเคยอดอาหารเป็นระยะเวลา 10 วัน เพื่อลดน้ำหนักตามเป้าหมายที่วางไว้ และเมื่อวันฮาโลวีนปีหนึ่ง เธอนำขนมไปซ่อนเพื่อที่จะไม่ต้องกินมันภายหลัง ซึ่งเธอเผยว่าโรคอะนอเร็กเซียเริ่มควบคุมวิถีชีวิตเธอตั้งแต่อายุ 16 ปี มันเป็นแรงกดดันให้เธอมีร่างกายสวยงามสมบูรณ์แบบ

นางสาวเซียร์ร่าเล่าช่วงที่เธออดอาหารหนักเป็นเวลาประมาณ 10 วัน เธอรับประทานวิตามินหลายชนิดและครีมบนกาแฟแทนมื้ออาหารที่เหมาะสม โดยช่วงที่เธอผอมที่สุด เธอมีน้ำหนักแค่ประมาณ 45 กิโลกรัม ซึ่งเธอผอมจนสามารถใส่เสื้อผ้าไซส์เด็กได้และมีปัญหาในการยืนทรงตัว เนื่องจากขาไม่มีแรง เธอให้สัมภาษณ์ถึงช่วงเวลานั้นว่า “ฉันไม่เคยรู้สึกว่าฉันผอมพอแล้ว หรือป่วยจนต้องรักษา แต่แล้วฉันก็ค้นพบว่าสิ่งที่ฉันทำอยู่มันไม่ใช่เลย”

นางสาวเซียร์ร่าให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า “ฉันเหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่ ฉันคิดว่ามันมี 3 ทางเลือก คือ 1. ปล่อยให้โรคนี้มันฆ่าฉันตายไปเลย 2. เกลียดสิ่งที่เป็นอยู่แล้วจมกับความคิดนี้ตลอดไป 3. ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับมัน และคิดไว้ว่ามันจะไม่มีอะไรแย่กว่าสิ่งที่เจออยู่ตอนนี้แล้ว” นอกจากนี้เธอเปรียบว่า โรคอะนอเร็กเซียเป็นส่วนหนึ่งในโลกของเธอ การรักษามันให้หายขาดก็เหมือนการเสียตัวตนที่เคยมีอยู่ไป

โดยตอนนี้นางสาวเซียร์ร่ามีน้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม เธอต้องพยายามนึกถึงสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขและมีชีวิตชีวา เพื่อให้ตัวเองผ่านช่วงการเยียวยามาได้ ประสบการณ์ตอนนั้นเป็นการก้าวผ่านพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง เธอให้คำแนะนำผู้ซึ่งเริ่มบำบัดโรคอะนอเร็กเซียว่า “การเข้าโรงพยาบาล การกินยา ให้อาหารทางท่อสายยาง หรืออะไรอื่นๆ ก็ไม่สามารถช่วยคนเยียวยาได้ดีเท่ากับการต่อสู้ด้วยตัวคุณเอง” ซึ่งตอนนี้นางสาวเซียร์ร่าได้มีชีวิตการงานและความรักที่ดี หลังจากที่เธอปลดแอกตัวเองจากโรคอะนอเร็กเซียได้สำเร็จ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน