วันที่ 14 พ.ค. บีบีซีรายงานสถานการณ์สภาพอากาศแปรปรวนในประเทศอินเดีย หลังพายุฝนและพายุฝุ่นพัดถล่มพื้นที่ตอนเหนือ ตะวันออก และตอนใต้ของประเทศอีกระลอกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ค. มีผู้เสียชีวิตแล้ว 70 ราย บาดเจ็บกว่า 100 คน รวมยอดผู้เสียชีวิตเพราะภัยพิบัตินี้ในเดือนพฤษภาคมเกิน 200 รายแล้ว
รัฐอุตตรประเทศเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 40 ราย ส่วนรัฐอานธรประเทศซึ่งประสบวิกฤตฟ้าผ่ากว่า 41,000 ครั้ง ในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ พบผู้เสียชีวิตจากพายุครั้งล่าสุดอย่างน้อย 12 ราย ขณะที่รัฐเบงกอลตะวันตก ชาวบ้านถูกฟ้าผ่าตายอีก 14 ราย ขณะที่ 2 รายเสียชีวิตในกรุงนิวเดลี
An Indian resident covers her face amid a dust storm in New Delhi on May 13, 2018. / AFP PHOTO / CHANDAN KHANNA
ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุหลงฤดูตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 134 รายเป็นอย่างน้อย 204 รายแล้ว ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือกับพายุฝนฟ้าคะนองของฤดูมรสุมในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า
Village Itada is enveloped in thick blanket of dust during a dust storm in Noida near New Delhi, India, Sunday, May 13, 2018. The monsoon season is nearly six weeks away in India. (AP Photo/Altaf Qadri)
ทางการท้องถิ่นรัฐอุตตรประเทศระบุว่า พายุที่ความเร็วลม 109 ก.ม.ต่อช.ม. พัดกระหน่ำอย่างหนักจนอาคารบ้านเรือนหลายสิบหลังพังเสียหาย และเสาไฟฟ้าล้มระเนระนาดจำนวนมาก
An uprooted tree from Sunday’s sudden storm is seen falling next to a vehicle, in New Delhi, India, Monday, May 14, 2018. . (AP Photo/Manish Swarup)
ขณะที่กรุงนิวเดลีต้องประกาศงับการให้บริการรถไฟใต้ดินอย่างน้อย 3 สาย ได้แก่ สายสีฟ้า สายสีม่วง และสายสีชมพู ภายหลังลมกระโชกแรงพัดกระหน่ำจนต้นไม้ล้มทับสายเคเบิลของระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือศีรษะ และส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารหลายหมื่นคน ขณะเดียวกันเครื่องบิน 70 เที่ยวต้องลงจอดที่สนามบินอื่น
