เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐอเมริกา 2 คน ขณะนี้กองทัพสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตกลงร่วมกันเปลี่ยนแผนการบิน ไม่นำเครื่องบินทิ้งระเบิดหัวรบนิวเคลียร์ รุ่น บี-52 อย่างน้อยสองลำเข้าไปในคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงจะไม่นำเครื่องบินบี-52 ที่เคยร่วมซ้อมรบมาหลายปีมาซ้อมรบในขณะนี้

คาดว่าการเปลี่ยนแผนครั้งนี้ เพื่อลดดีกรีความไม่พอใจของเกาหลีเหนือ ซึ่งขู่ล้มหมายการประชุมระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่สิงคโปร์ วันที่ 12 มิถุนายนนี้ ด้วยความไม่พอใจที่สหรัฐกับเกาหลีใต้ยังซ้อมรบกันอยู่

เจ้าหน้าที่สหรัฐไม่ได้ตอบคำถามว่าการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบินเพื่อตอบสนองแถลงการณ์จากรัฐบาลเกาหลีเหนือหรือไม่ หลังจากเกาหลีเหนือแถลงเตือนให้สหรัฐพิจารณาให้ถี่ถ้วนถึงการกระทำการยั่วยุทางทหารและให้คิดถึงการพบปะกันที่ใกล้จะถึงนี้

นายคิม จองอึน / AFP PHOTO

แม้ว่าจะมีการออกมาให้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สองคนดังกล่าว แต่ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐปฏิเสธที่จะพูดถึงกรณีนี้ โดยพันโทคริสโตเฟอร์ โลแกน โฆษกเพนตากอนระบุว่าทางกระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการประสานงานกับพันธมิตรของเราอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเรื่องความมั่นคง ทางกระทรวงจึงไม่ขอตอบว่าจะมีปฏิบัติการอะไรเกิดขึ้นในอนาคต รวมไปถึงไม่ขอตอบข้อความใดๆที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการการตัดสิน ใจในอนาคต

เครื่องบิน บี-52 /U.S. Air Force Fleet

ท่าทีดังกล่าวตรงกับความเคลื่อนไหวที่เครื่องบิน บี-52 ของกองทัพสหรัฐ กลับสู่ฐานเดิมที่เกาะกวมแล้ว หลังจากบินขึ้นมาประมาณ 24-48 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ โดยเส้นทางการบินของเครื่องบินดังกล่าวที่พยายามออกห่างจากน่านฟ้าของเกาหลีใต้

เครื่องบิน บี-52 /U.S. Air Force Fleet

อย่างไรก็ตามเครื่องบินทิ้งระเบิดดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญในการซ้อมรบร่วมระหว่างญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งทางเกาหลีเหนือประกาศกร้าวมาตลอดว่าการซ้อมรบที่นำโดยสหรัฐเป็นการยั่วยุให้เกิดสงคราม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน