เอพีรายงานวันที่ 20 พ.ค.ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา หรือ เพนตากอน แถลงวิจารณ์ที่ทางการจีนยังเดินหน้าเสริมทัพในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ด้วยการส่ง เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล รุกเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเป็นครั้งแรก ทำให้ทั้งภูมิภาคอาเซียนตกอยู่ในพิสัยทำการดังกล่าว

“สหรัฐอเมริกายังคงยึดมั่นในการรักษาภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เป็นพื้นที่เปิดและเสรี แต่เราได้ยินรายงานมาว่าจีนยังเดินหน้าเสริมทรัพในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ที่ไม่เป็นผลอื่นนอกจากสร้างความตึงเครียดและบั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาค” เพนตากอนแถลง

หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ กระบอกเสียงของทางการจีน ออกข่าวปฏิบัติการทางทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ว่าฝึกซ้อมการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด เอช-6 (H-6K) ในทะเลจีนใต้

เครื่องบินรุ่นนี้อาศัยโมเดลเดิมของเครื่องบินรัสเซีย แต่ผลิตโดยกองทัพจีน มุ่งใช้สำหรับการทิ้งระเบิดพิสัยไกล และบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ ที่อาจโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินรบของสหรัฐได้

นายเกอ ต้าฉิง กัปตันเครื่องบิน H-6K กล่าวว่าเป็นการฝึกที่ลับคมความกล้าหาญและศักยภาพในสงครามจริง

จีนเสริมกำลังเข้าไปยังหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ พื้นที่พิพาทกับประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน เนื่องจากหมู่เกาะเหล่านี้เต็มไปด้วยแนวปะการัง มีน่านน้ำที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการประมง และเป็นไปได้ว่ามีแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติด้วย

โดยเฉพาะที่ หมู่เกาะสแปรตลี จีนสร้างเกาะเทียมขึ้นมา 7 เกาะ ติดตั้งสถานีขีปนาวุธ เรดาร์ ลานบิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์เข้าไปครอบครองพื้นที่

พลเรือเอก ฟิล เดวิดสัน ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐประจำภาคพื้นแปซิฟิกคนใหม่ เขียนสรุปสถานการณ์ต่อสภาคองเกรสว่า จีนมาถึงจุดที่เข้าควบคุมทะเลจีนใต้แล้ว และฐานทัพต่างๆ นั้นใช้ท้าทายสหรัฐในภูมิภาคนี้ได้ เพราะเคลื่อนกำลังทหารเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน