วันที่ 23 พ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า แอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรสิทธิมนุษยชนสากล รายงานถึงผลการสอบสวนใหม่ยืนยันว่านักรบติดอาวุธโรฮิงยาในสังกัดกองกำลังปลดปล่อยอารกันหรืออาร์ซา สังหารหมู่ชาวบ้านฮินดูจำนวน 53 ราย โดยการตัดหัว ส่วนใหญ่เป็นเด็ก เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทหารออกปราบปรามนักรบติดอาวุธ ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.2560
รายงานจากแอมเนสตี้ระบุว่า ชาวฮินดู 53 รายถูกสังหารที่หมู่บ้านข่ะหม่องซีก ทางตอนเหนือของเมืองหม่องดอว์ จากการสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต 8 คน กลุ่มสิทธิระบุว่า กลุ่มคนถูกถูกไล่ต้อนให้มารวมกัน ปิดตา ถูกนำออกนอกเมืองโดยชายสามหน้ากากรวมถึงชาวบ้านโรฮิงยา
(FILES) แฟ้มภาพหญิงชาวฮินดูร่ำไห้ที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัว เมื่อ 27 ก.ย.2560 / September 27, 2017, AFP
“พวกเขาเชือดเหยื่อ เราถูกบังคับไม่ให้มอง พวกเขามีมีด รวมถึงพลั่ว และแท่งเหล็ก” นายราช กุมารี วัย 18 ปี กล่าวและว่าตนซุ่มดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพุ่มไม้ ดูพ่อ พี่ชาย ลุงถูกฆ่า
(FILES)แฟ้มภาพหญิงชาวฮินดูร่ำไห้ที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัวที่หมู่บ้านเยบอจอ เมืองหม่องดอว์ รัฐยะไข่่ เมื่อ 27 ก.ย.2560 . / AFP PHOTO / STR
ด้านนายนี มาอุล ผู้นำชุมชนฮินดู กล่าวว่า กลุ่มนักรบที่สังหารชาวฮินดูหนีไปบังกลาเทศ มีพยานหลายคนรู้เห็น แต่พวกตนไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะผู้คนสนใจเหตุฆ่าหมู่ฮินดูน้อยกว่าโรฮิงยา
สภาพหมู่บ้านชาวโรฮิงยาที่ถูกเผาไล่ตั้งแต่ปีก่อน May 1, 2018. Picture taken on May 1, 2018. REUTERS/Michelle Nichols
ด้านนายซอว์ ฮเตย์ โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า กรณีนี้ย้ำว่านานาประเทศที่กดดันเมียนมาต้องไม่เข้าข้างการ กระทำของอาร์ซาด้วย
