เมื่อวันที่ 24 พ.ค. เว็บไซต์ข่าวเดลี่เมล์รายงานถึงการโต้แย้งข้อสันนิษฐานเหตุการณ์สายการบินมาเลเซียแอร์ไลนส์ เที่ยวบินที่ เอ็มเอช 370 ที่หายไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2557 พร้อมผู้โดยสาร 239 ชีวิต ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ว่า กัปตันเครื่องบินมรณะลำนี้เป็นผู้นำเครื่องดิ่งทะเลเองหรือไม่
ด้านเดลี่เมล์รายงานว่า นายแลร์รี แวนซ์ อดีตเจ้าหน้าที่สืบสวนในกรณีสายการบินแอร์แคนาดาตก กล่าววิเคราะห์กรณีเอ็มเอช 370 ในรายการ 60 นาทีของโทรทัศน์ของออสเตรเลีย ว่ากัปตันซาฮารี อัคหมัด ชาห์ ของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 พยายามฆ่าตัวตาย แต่พาคนอื่นตายไปด้วย ขณะนำเครื่องเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังกรุงปักกิ่ง
นักบินสองคนของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ประกอบด้วย นายซาคารี อัคหมัด ชาห์ และผู้ช่วยนักบินนายฟาริก อับดุล ฮามิด
นายแวนซ์เชื่อว่า เมื่อดูจากภาพหลักฐานซากแฟลปที่พบว่าอยู่ในลักษณะหดกลับ แสดงว่ากัปตันก่อเหตุในขณะที่ยังมีสติสมบูรณ์ จึงพยายามที่จะให้เครื่องบินเสียหายน้อยที่สุด และไม่ต้องการให้คนอื่นพบซากเครื่องบิน
แต่นางคริสทีน เนโกรนี ผู้เชี่ยวชาญ และนักข่าว นักเขียนเกี่ยวกับการบิน ตอบโต้แนวคิดของนายแวนซ์ว่า เป็นแนวคิดที่พิลึก แปลก เหลวไหล พร้อมกับโพสต์รูปและข้อความในเว็บไซต์ของตัวเองว่า สิ่งที่นายแวนซ์พูดเป็นเรื่องเหลวไหล หลอกลวง และไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่ากัปตันขาดสติ หรืออยากจะฆ่าตัวตาย
บริเวณปีกที่เรียกว่า Flaps ใช้เพื่อช่วยลดความเร็วของเครื่องบินขณะลงจอด
ที่สำคัญซากเครื่องบินชิ้นส่วนบริเวณแฟลป (Flaps) ทำหน้าที่เพิ่มแรงยกให้กับปีกในกรณีที่ความเร็วลดลง ของเอ็มเอช 370 ไม่ได้ยกออก เพื่อลดความเร็วสำหรับการลงจอดแต่อย่างใด
นางคริสทีน เนโกรนี “แต่ในทางตรงกันข้าม ดิฉันขอเสนอว่ามันมีการลดระดับความกดอากาศอย่างรวดเร็วในเครื่อง ส่งผลให้คนขับเครื่องบินทั้งสองคนขาดออกซิเจน และไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ทันท่วงที ” นางเนโกรนี กล่าว พร้อมชี้ว่าเครื่องบินยังคงบินอยู่ตลอดเหนือมหาสมุทรอินเดียจนกระทั่งตกเพราะน้ำมันหมด ไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตายแต่อย่างใด
ชิ้นส่วนซากเครื่องบินที่พบ
ขณะเดียวกัน มีรายงานเอเอฟพีว่า รัฐบาลมาเลเซียภายใต้การนำของดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด จะยกเลิกสัญญาจ้างบริษัทโอเชียน อินฟินิตีที่รัฐบาลนายนาจิบ ราซักทำไว้ ในภารกิจค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 เพราะต้องการลดค่าใช้จ่ายภาครัฐที่ต้องจ่ายราว 2,200 ล้านบาท ในขณะที่ไม่เห็นวี่แววว่าจะพบซากเครื่อง
