“วาฬสีน้ำเงิน” ใกล้สูญพันธุ์ คาดถูกล่าครั้งแรกในรอบ50ปี เตรียมส่งเนื้อทำเป็นอาหาร
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เดลี่เมล รายงานว่า นักล่าวาฬชาวไอซ์แลนด์ฆ่า วาฬสีน้ำเงิน ที่เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ก่อนจะแล่เนื้อเพื่อเตรียมนำไปทำเป็นอาหารราคาแพงในประเทศญี่ปุ่น
ภาพของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ที่มีความยาว 33 เมตร ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์โดยกลุ่มอนุรักษ์นิยม และกล่าวว่า มันถูกฆ่าอย่างทารุณโดยบริษัทล่าวาฬของ คริสเตียน ลอฟต์สัน
ซากวาฬขนาดใหญ่ถูกลากขึ้นมาที่ท่าเรือโดยเรือล่าวาฬ ขณะที่ผูกอีกด้านไว้กับเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ เมื่อเช้าวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา
วาฬสีน้ำเงินเคยถูกล่าจนเกือบสูญพันธุ์ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา และประชากรวาฬสีน้ำเงินเหลือเพียง 10,000 ถึง 25,000 ตัวเท่านั้น และไม่มีการล่าวาฬสีน้ำเงินมาเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว
เจ้าหน้าที่กลุ่มซี เชพเพิร์ด หรือกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า มันเป็นวาฬตัวที่ 22 ที่ถูกฆ่าโดยบริษัทของลอฟต์สัน ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่วาฬตัวอื่นๆ คือวาฬฟิน วาฬที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากวาฬสีน้ำเงินที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก และวาฬฟินกำลังจะกลายเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เช่นกัน
“ลอฟต์สันสั่งลูกเรือของเขาให้แล่เนื้อวาฬเหมือนกับวาฬฟินที่เคยถูกล่า” กลุ่มต่อต้านการล่าวาฬกล่าว “เนื้อ หนัง ไขมัน และกระดูกของมันถูกรวมกับวาฬฟินที่ถูกล่าก่อนหน้านี้ ทำให้มันยาก หรือไม่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าหน้าที่จะแยกแยะเพื่อระบุว่ามันมาจากวาฬอะไรได้”
ภาพต่อมาเผยให้เห็นว่าวาฬถูกแล่เนื้อ และนักต่อต้านการล่าวาฬกล่าวว่า เนื้อวาฬอาจถูกขายให้ประเทศญี่ปุ่นที่ยังมีการกินเนื้อวาฬในภัตตาคาร
นายลอฟต์สันได้รับอนุญาตให้ล่าวาฬจากรัฐบาลประเทศไอซ์แลนด์ แม้ว่ากฎสากลจะมีการระงับการล่าวาฬเอาไว้ อย่างไรก็ตาม การล่าวาฬสีน้ำเงินถือว่าผิดกฎหมายไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใด
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เห็นภาพวาฬสีน้ำเงินที่ถูกล่ากล่าวว่า วาฬตัวนี้น่าจะใช้วาฬสีน้ำเงินแน่นอน จากสี ลักษณะ และรูปร่างของหาง
“มันมีเอกลักษณ์ของวาฬสีน้ำเงิน ทั้งสีและผิว” ดร.ฟิลลิป แคลปแฮม นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลกล่าว “มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เชี่ยวชาญเห็นแล้วจะเข้าใจมันผิดกับวาฬชนิดอื่นๆ”
มาร์ก ซิมมอนด์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ขององค์กรฮิวแมนโซไซตีอินเทอร์เนชันแนล เชื่อว่ามันเป็นวาฬสีน้ำเงินที่ยังไม่โตเต็มที่ หรือไม่ก็เป็นวาฬลูกผสมระหว่างวาฬฟินและวาฬสีน้ำเงิน
โรเบิร์ต รีด เจ้าหน้าที่กลุ่ม ซี เชพเพิร์ด ของประเทศอังกฤษ ต้องการตัวอย่างดีเอ็นเอ และชิ้นเนื้อของวาฬตัวดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาฆ่าวาฬสีน้ำเงินอย่างผิดกฎหมายหรือไม่
“เขาต้องถูกหยุดจากการกระทำที่โหดร้ายและฝ่าฝืนกฎหมายอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ทั้งยังนำมาสู่การเสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศไอซ์แลนด์ ไม่มีเหตุผลแก้ตัวใดๆ ที่ทำให้การก่ออาชญากรรมนี้ถูกกฎหมาย”
