สร้างความแตกแยก อิหร่านประณามสหรัฐหวนคว่ำบาตรเต็มรูปแบบ
สร้างความแตกแยก – เมื่อวันที่ 7 ส.ค. บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีฮัสซาน เราฮานี ผู้นำอิหร่าน กล่าวประณามทางการสหรัฐอเมริกา ภายหลังสหรัฐหวนกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยกล่าวหาว่าอิหร่านลักลอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีป หรือไอซีบีเอ็ม
การประณามดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับบรรดาชาติพันธมิตรของสหรัฐที่ไม่เห็นด้วยกับสหรัฐ โดยเฉพาะชาติที่เคยเป็นคู่เจรจากับอิหร่าน อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี จีน รัสเซีย และสหภาพยุโรป หรืออียู ซึ่งต่างระบุถึงความเสียใจต่อการกระทำของสหรัฐ และยืนยันจะปกป้องเอกชนของชาติที่ทำการค้ากับอิหร่านจากสหรัฐ
Iran, and it’s economy, is going very bad, and fast! I will meet, or not meet, it doesn’t matter – it is up to them!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 4 สิงหาคม 2561
ประธานาธิบดีเราฮานี กล่าวประณามว่า มาตรการของสหรัฐถือเป็นสงครามเชิงจิตวิทยาที่ต้องการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่ชาวอิหร่าน ขณะที่ทางการสหภาพยุโรป หรืออียู ยืนยันจะเดินหน้าปกป้องบรรดาเอกชนของยุโรปที่มีสัญญาผูกพันการค้ากับอิหร่านตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐ ที่บรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์กับอิหร่านให้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธแลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรสหรัฐและพันธมิตร
Iranian President Hassan Rouhani dismissed a US call for talks on Monday. Lisi Niesner/Reuters
แต่ต่อมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน มีคำสั่งยุติข้อตกลงดังกล่าวเพียงฝ่ายเดียว และขู่จะดำเนินการกับเอกชนที่ค้าขายกับอิหร่าน
รายงานระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐต่ออิหร่านเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยพุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมสำคัญของอิหร่าน อาทิ รถยนต์ และสิ่งทอ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวโจมตีข้อตกลงของอดีตประธานาธิบดีโอบามาก่อนหน้าการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวว่า “ห่วยแตก เออออห่อหมกกันอยู่ฝ่ายเดียว แถมยังไม่สามารถสกัดกั้นหนทางทุกทางที่อิหร่านจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้”
อ่านต่อ:
