สาวผู้ได้รับโอกาสที่สอง ฆ่าตัว-ไม่ตาย ปลูกถ่ายใบหน้า มีชีวิตสู้ต่อไป
สาวผู้ได้รับโอกาสที่สอง – เว็บไซต์ข่าว ฟ็อกซ์31 รายงานเรื่องราวของสาวอเมริกันที่เคยคิดฆ่าตัวตาย โดยยิงตัวเองแม้ไม่ตาย แต่เสียโฉมร้ายแรง กระทั่งแพทย์ผ่าตัดให้ในฐานะคนไข้ที่อายุน้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการปลูกถ่ายใบหน้า เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ อีกทั้งยังทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กลุ่มคนที่คิดฆ่าตัวตายด้วย โดยใช้ตนเองเป็นตัวอย่างถึงอันตรายของการคิดฆ่าตัวตาย และให้กำลังใจผู้คนหวงแหนชีวิตที่ล้ำค่าไว้
เรื่องราวของสาว เคที สตับเบิลฟีลด์ อายุ 21 ปี เป็นที่ฮือฮาไปทั่วสหรัฐ เมื่อ นิตยสารเนชันแนล จีโอกราฟิก นำเสนอสารคดีเจาะลึกเบื้องหลังการผ่าตัดและขึ้นปกหญิงสาวในนิตยสารฉบับเดือนกันยายน 2018 ที่จะถึงนี้ ด้วยพาดหัวว่า “เรื่องของใบหน้าหนึ่ง” (The Story of a Face)
หญิงสาวคิดฆ่าตัวตายในช่วงเผชิญปัญหาทางอารมณ์มากมาย รวมถึงปัญหาเรื่องสุขภาพที่เป็นโรคกระเพาะเรื้อรัง และความรู้สึกถูกทรยศ จนวันที่ 25 มี.ค. 2557 พี่ชายของเคทีได้ยินเสียงปืนลั่นขึ้น เมื่อวิ่งไปดู พบน้องสาวยิงตัวเองในห้องน้ำที่บ้านในเมืองอ็อกซฟอร์ด รัฐมิสซิสซิปปี ชายหนุ่มทั้งตกใจและเสียใจมาก
สำหรับเคทีจำอะไรในวันนั้นไม่ได้มาก เป็นวันที่หญิงสาวสูญเสียใบหน้าจากแรงกระสุน นอกจากนี้ก็ยังจำเหตุการณ์ในปีนั้นไม่ได้มาก เนื่องจากบาดเจ็บสาหัสและอยู่แต่ในโรงพยาบาล ซึ่งย้ายจากมิสซิสซิปปีไปยังเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี แล้วจึงย้ายต่อไปอีกที่คลินิกคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ
ที่คลีฟแลนด์นี้เอง หญิงได้รับการปลูกถ่ายใบหน้าในสามปีถัดจากนั้น หลังจากพ่อแม่ทราบว่า มีหมอที่คลีฟแลนด์ผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าได้ ร็อบบ์ สตัลเบิลฟีลด์ พ่อของหญิงสาว กล่าวว่า ตอนนั้นสิ่งเดียวที่คิดคือถ้าลูกได้รับการปลูกถ่ายใบหน้าแล้ว จะกลับมามีชีวิตที่เดินหน้าต่อไปได้อีกครั้ง
สำหรับเคที พอได้ยินเรื่องปลูกถ่ายใบหน้า หญิงสาวนิ่งอึ้งไปพักใหญ่
“ฉันไม่เคยคิดรู้ว่าปลูกถ่ายใบหน้าคืออะไร พอพ่อแม่อธิบายทุกอย่างแล้ว ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้กลับมามีใบหน้าอีกครั้ง และทำงานได้อีกครั้ง”
การผ่าตัดของสตับเบิลฟีลด์เป็นการปลูกถ่ายใบหน้าคนที่สามของคลินิกในคลีฟแลนด์แห่งนี้ ขั้นตอนรวมถึงการปลูกถ่ายหนังหุ้มศีรษะ หน้าผาก เปลือกตาบนและล่าง จมูก โหนกแก้ม ขากรรไกรบน ครึ่งของขากรรไกรส่วนล่าง ฟันแผงล่าง เส้นประสาท กล้ามเนื้อ และผิวหน้าบางส่วนของใบหน้า รวมถึงเนื้อเยื่อที่เข้าไปแทนที่ใบหน้าทั้งหมด
ทั้งเนื้อเยื่อ กระดูก เส้นประสาท และหลอดเลือดที่ใช้ผ่าตัด ได้รับมาจากผู้บริจาคอวัยวะที่เสียชีวิตไปแล้ว ชื่ออะเดรีย ชไนเดอร์ อายุ 31 ปี ซึ่งใช้ยาเกินขนาดจนถึงแก่ความตาย การผ่าตัดเริ่มต้นในวันที่ 4 พ.ค. 2557 ใช้เวลาติดต่อยาวนาน 31 ชั่วโมง ใช้ศัลยแพทย์ พร้อมผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ 11 คน
หลังการผ่าตัดอันยาวนาน สาวเคทีใช้มือสัมผัสใบหน้าและรู้สึกเจ็บที่แผล รู้ว่า ใบหน้าส่วนใดที่ยุบลงไปและส่วนใดที่หายไป ส่วนการมองเห็นได้รับการฟื้นฟูดีแล้ว
“ฉันสัมผัสหน้าตัวเองได้แล้ว และรู้สึกมหัศจรรย์ใจมาก” หญิงสาวกล่าว แต่เป็นการพูดที่ยังลำบากอยู่ โดยเคทีจะต้องกินยาไปตลอดชีวิตจากผลกระทบของการผ่าตัดในครั้งนี้ แต่หญิงสาวกลับมามีใจสู้แล้ว และกล่าวว่าครอบครัวมีส่วนสำคัญมากที่ทำให้เธอเข้มแข็งขึ้น
“ฉันจะค่อยๆ พยายามไปมากๆ ทุกวัน ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ชีวิตนั้นสวยงาม” หญิงสาวผู้ได้รับโอกาสที่สองในชีวิตกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เจอโรม อามง : ชายสามใบหน้า
