สหรัฐระแวงจีน ซุ่มฝึกนักบินโจมตีอเมริกา เจอจีนสวนกลับ หมกมุ่น-ไม่ซื่อ
สหรัฐระแวงจีน – เมื่อ 17 ส.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า จากการที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาติดตามความเคลื่อนไหวกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน หรือพีแอลเอ มีรายงานล่าสุดพบว่าจีน อยู่ระหว่างการพัฒนาขีดความสามารถโจมตีทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ระยะไกลให้กับกองทัพเรือจีน และมีความเป็นไปได้ว่ากำลังอยู่ระหว่างการฝึกฝนนักบินในภารกิจโจมตีสหรัฐอเมริกา พร้อมแสนยานุภาพการจู่โจมระดับวงโคจรโลก
รายงานประเมินแสนยานุภาพกองทัพและความมั่นคงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน นำเสนอต่อสภาคองเกรส ระบุถึงกองทัพจีน ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้นขยายขีดความสามารถในการโจมตีทิ้งระเบิดมากขึ้นเรื่อยๆ และสั่งสมประสบการณ์ทางด้านยุทธวิธีการสู้รบทางทะเลในภูมิภาคที่สุ่มเสี่ยงต่อการสู้รบ ทั้งยังอาจอยู่ระหว่างฝึกฝนนักบินรบในภารกิจทิ้งระเบิดโจมตีต่อต้านสหรัฐและชาติพันธมิตร
รายงานระบุว่า กองทัพจีนอยู่ระหว่างการพัฒนาแสนยานุภาพด้านการโจมตีทิ้งระเบิดระยะไกลด้วยระเบิดนิวเคลียร์ สะท้อนจากการที่กองทัพอากาศจีนเพิ่มหน่วยบัญชาการใหม่เป็นหน่วยบินรบระเบิดนิวเคลียร์
“การนำฝูงบินรบที่มีขีดความสามารถในโนการโจมตีข้าศึกด้วยระเบิดนิวเคลียร์มาประจำการในกองทัพจีน จะส่งผลให้จีนมีแสนยานุภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์เทียบเท่ากับสหรัฐ ตามยุทธวิธีไตรแอด (triad) กล่าวคือ ขีดความสามารถในการโจมตีทางนิวเคลียร์ทั้งทางบก (ขีปนาวุธข้ามทวีป) ทางน้ำ (เรือดำน้ำ) และอากาศ (เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล)”
“กองทัพจีนอยู่ระหว่างการพัฒาเครื่องบินทิ้งระเบิด ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ ที่มีขีดความสามารถในการหลบเลี่ยงการตรวจจับของข้าศึก และพิสัยการบินที่ไกล มีกำหนดจะเข้าประจำการภายในไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า”
ข้อสรุปในรายงานประจำปีของเพนตากอนนี้ สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่อยู่ระหว่างการปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่ให้มีความทันสมัย และปราบปรามการคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรง
รายงานสหรัฐ ระบุว่า เป็นการปฏิรูปกองทัพจีนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน เพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถให้กองทัพสามารถทำสงครามได้ในลักษณะปฏิบัติการร่วมกัน (joint operations)
ก่อนหน้านี้ รายงานแนะนำการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีป้องกันด้านความมั่นคงของสหรัฐที่เผยแพร่เมื่อต้นปีนี้ กำหนดให้กองทัพจีนเป็นความท้าทายทางทหารอันดับหนึ่งของสหรัฐ นอกจากนี้ กองทัพจีนยังเคยนำเครื่องบินทิ้งระเบิด รุ่น เอช-6เค ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้แล่นลงจอดบนหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนใต้มาแล้ว เพื่อแสดงแสนยานุภาพ เมื่อเดือนพ.ค. 2561
รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนในประเด็นต่างประเทศหลายเรื่อง อาทิ สงครามการค้า และทะเลจีนใต้ รวมไปถึงไต้หวัน กรณีขัดแย้งกุศโลบายจีนเดียว นำไปสู่การเพิ่มงบประมาณทางทหารให้กองทัพโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มูลค่า 7.17 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 23 ล้านล้านบาท และเพิ่มพูนความร่วมมือทางทหารกับไต้หวันเพื่อต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน
นายหวู เฉียน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน กล่าวตอบโต้ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ว่าสหรัฐหมกมุ่นกับการทำสงครามเย็นมากเกินไป และ “คนไม่ซื่อย่อมไม่มีวันยิ่งใหญ่ ประเทศชาติก็เช่นเดียวกัน” และเรียกร้องให้สหรัฐยึดมั่นตามคำที่เคยให้ไว้กับจีน กรณีไต้หวันว่าจะเคารพกุศโลบายจีนเดียว ต่อกรณีไต้หวัน
รายงานล่าสุดของเพนตากอน ยังระบุอีกว่า จีนอยู่ระหว่างพัฒนาแสนยานุภาพที่มีเทคโนโลยีสูงเพื่อใช้สกัดกั้นไม่ให้ไต้หวันซึ่งปกครองตัวเองมานานเกือบ 70 ปี ประกาศเอกราช อิทธิพลของกองทัพจีน และยุทธศาสตร์การขยายอิทธิพลในเวทีโลกของจีน
เช่น การตั้งฐานทัพจีนในต่างแดนเป็นแห่งแรกที่ประเทศจิบูติ ในทวีปแอฟริกา เมื่อเดือนก.ค. 2560 และกำลังวางแผนจะตั้งฐานทัพในชาติอื่นๆ ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดทางการค้าอย่างปากีสถาน ทั้งกรณียังเกิดขึ้นหลังรัฐบาลศรีลังกาขายท่าเรือน้ำลึกฮัมบันโตตา ให้บริษัทภายใต้การกำกับของรัฐบาลจีนในเดือนเดียวกัน
ขณะที่เส้นทางสายไหมใหม่ “โครงการริเริ่มแถบและเส้นทาง” หรือบีอาร์ไอ ที่ทางการจีนเรียกว่า หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางนั้นถือเป็นความพยายามแผ่อิทธิพลทางเศรษฐกิจเพื่อให้ชาติในแถบเส้นทางหันมามีแนวคิดเดียวกันกับจีน และใช้ชาติเหล่านี้เป็นพื้นที่กันชนกับศัตรู หรือเป็นข้ออ้างบังหน้าในประเด็นที่จีนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไม่เหมาะสม
แสนยานุภาพของจีนอีกด้านที่อยู่ระหว่างพัฒนานั้น คือ แสนยานุภาพจู่โจมระดับวงโคจรโลก ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธไร้หัวรบ-พลังงานจลน์ (ใช้ลักษณะการพุ่งชน) ฐานยิงลำแสงเลเซอร์โจมตีจากภาคพื้นดิน และจักรกลรบระดับวงโคจร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับและทำลายสิ่งแปลกปลอมในน่านอวกาศของจีน
กรณีนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐพยายามรับมือด้วยการจัดตั้ง กองทัพอวกาศ หรือสเปซฟอร์ซ (USSF) ซึ่งเป็นเหล่าใหม่ ดูแลความมั่นคงของสหรัฐในอวกาศ ตามดำริของประธานาธิบดีทรัมป์ ภายในปี 2563
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทรัมป์ตั้งกองกำลังอวกาศ เทียบเท่า3เหล่าทัพ ลั่นแพ้จีน-รัสเซียไม่ได้