อินโดฯขุดหลุมฝังเหยื่อสึนามิ รองรับ1,300ศพ เผยภาพสะเทือนใจจากมุมสูง
อินโดฯขุดหลุมฝังเหยื่อสึนามิ วันที่ 1 ต.ค. สำนักข่าวต่างประเทศ เอพี เอเอฟพี และ รอยเตอร์ รายงานเผยแพร่ภาพสถานการณ์โศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวและสึนามิ พัดถล่มเกาะสุลาเวสี ทางตอนกลางของประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 ก.ย. ว่า เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเร่งฝังร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 832 รายในหลุมขนาดใหญ่ ความยาวกว่า 100 เมตร เพื่อเตรียมไว้รองรับเหยื่อที่อาจเพิ่มสูงถึง 1,300 ราย
ทางการท้องถิ่นคาดว่ามีผู้เสียชีวิตอีกหลายร้อยรายติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของบ้านเรือนจำนวนมาก ส่งผลให้หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องจักรกลหนักรื้อถอนเศษซากของอาคาร ซึ่งมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่สามารถนำเครื่องจักรเหล่านี้เข้าไปได้ เพราะถนนและสะพายในหลายพื้นที่ยังถูกตัดขาด หรือมีดินถล่มทับขวางเส้นทาง
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานจากเนินเขาโปโบยา เหนือเมืองปาลู พื้นที่ประสบภัยคลื่นสึนามิซัดถล่ม ว่า อาสาสมัครจำนวนมากบรรจุร่างผู้เสียชีวิตในถุงพลาสติกห่อศพ จากนั้นนำขึ้นรถบรรทุก 3 คันซึ่งมุ่งหน้าไปยังหลุมฝังศพขนาดใหญ่บนเนินเขา และลำเลียงวางศพลงในหลุม โดยมีรถตักดินโกยดินกลบหลุมในส่วนที่มีศพเต็ม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทางการวิตกว่าศพจะเน่าเปื่อยและเป็นต้นตอการแพร่ระบาดเชื้อโรคไปยังประชาชน จึงเร่งดำเนินการฝังศพผู้เสียชีวิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้านนายทอม เล็มบอง เจ้าหน้าที่อาวุโสของอินโดนีเซีย โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่าประธานาธิบดีนายโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย กล่าวระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนและตรวจตราความเสียหายบนเกาะสุลาเวสี ว่าอนุญาตให้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติเพื่อตอบสนองและบรรเทาภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ยังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระยะเวลา 14 วัน เพื่อตั้งรับกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนยังหวาดวิตกว่าจะมีแผ่นดินไหวรุนแรงตามมาอีกระลอก
ขณะเดียวกันซรี ปูกุห์ อูตามี เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซีย ยืนยันว่ามีนักโทษราว 1,200 คนหลบหนีจากเรือนจำอย่างน้อย 3 แห่งบนเกาะสุลาเวสี รวมถึงสถานกักกันเขตดองกาลาซึ่งถูกวางเพลิง และผู้ต้องขังทั้งหมด 343 คนหลบหนีออกมาได้ ส่วนใหญ่เป็นนักโทษคดีคอร์รัปชั่นกับค้ายาเสพติด และเพียงไม่กี่วันก่อนเกิดภัยพิบัติทางการเพิ่งย้ายนักโทษคดีก่อการร้าย 5 คนไปคุมขังที่เรือนจำอื่น แม้นักโทษเหล่านี้จะหลบหนีเพราะกลัวตาย แต่ก็ถือเป็นการแหกคุก และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งจับกุมเพื่อส่งกลับไปรับโทษในเรือนจำตามเดิม
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :