หุ้นเอเชียร่วงกราวตามสหรัฐ ทรัมป์ว้ากเฟดไปกันใหญ่แล้ว
หุ้นเอเชียร่วงกราวตามสหรัฐ – เมื่อวันที่ 11 ต.ค. เอพี รายงานสถานการณ์การซื้อขายในตลาดหุ้นของเอเชีย ต่างร่วงระนาวไปตามๆ กัน หลังหุ้นวอลล์สตรีตของสหรัฐดิ่งอย่างหนักในภาคเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต
หุ้นของบริษัทแอปเปิล และบริษัทแอมะซอน สองยักษ์ใหญ่ในวงการไอที ร่วงหนักสุดในรอบสองปีครึ่ง แอปเปิลดิ่งลงไปร้อยละ 4.6 แต่ที่หนักกว่าคือแอมะซอน ดิ่งร้อยละ 6.2 ทั้งที่มูลค่าหุ้นของแอมะซอนเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 50 ในปีนี้ เมื่อถึงคราวดิ่ง จึงทำให้มูลค่า ณ ขณะนี้เมื่อเทียบกับเมื่อต้นเดือนกันยายน ดิ่งลงถึงร้อยละ 14
ตัวเลขดิ่งที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (AP Photo/Richard Drew)
ส่วนตลาดหุ้นของเอเชีย ญี่ปุ่นดิ่งลงร้อยละ 3.9 จีนดิ่งลงร้อยละ 4.3 ฮ่องกง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และชาติในอาเซียน ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน
สำหรับสาเหตุ เอพีระบุว่า นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด มีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีกครั้งเป็นครั้งที่สาม ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อการกู้ยืมเงิน และจะส่งผลไปยังการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวม จนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐถึงกับวิจารณ์ว่า เฟดกำลังทำพลาดแล้วในเรื่องขึ้นอัตราดอกเบี้ย และว่า “ผมคิดว่าเฟดท่าจะบ้าไปใหญ่แล้ว”
(AP Photo/Kin Cheung)
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเขย่าขวัญจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ปรับลดตัวเลขประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกลง จากร้อยละ 3.9 เป็น 3.7 เนื่องจากมองว่าสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐจะเสี่ยงที่จะทำให้โลกจนลงและอันตรายมากขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
