ฆ่าหั่นทั้งเป็นนักข่าว กงสุลใหญ่ซาอุฯถูกปลด เสียงโผล่ในคลิป “เอาไปจัดการข้างนอก”

ฆ่าหั่นทั้งเป็นนักข่าว – เมื่อ 18 ต.ค. เว็บไซต์ อีฟนิงสแตนดาร์ด รายงานความคืบหน้าคดีเขย่าโลก นายจามาล คาช็อกกี นักข่าวอิสระชาวซาอุดีอาระเบียและคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ วอชิงตันโพสต์ สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ หายตัวไปนับตั้งแต่เดินเข้าไปในอาคารสถานกงสุล ซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. เชื่อว่าถูกสังหารโหดไปแล้ว ล่าสุด กงสุลใหญ่ที่ดูแลสถานที่นี้ถูกให้ออกจากตำแหน่ง หลังมีเสียงปรากฏอยู่ในเทปบันทึกนาทีสังหาร

นายโมฮัมหมัด อัล-โอไตบี กงสุลใหญ่ซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล เดินทางออกจากตุรกีกลับไปยังราชอาณาจักรซาอุฯ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. พร้อมถูกปลดจากตำแหน่งและถูกสอบสวน หลังจากเทปบันทึกเสียงที่ได้จากนาฬิกาแอปเปิลวอตช์ของนายคาช็อกกี มีเสียงนายโอไตบี พูดว่า “เอาไปจัดข้างนอกสิ คุณจะทำให้ผมลำบากแล้วเนี่ย”

เจ้าหน้าที่ตุรกีเก็บหลักฐานออกจากสถานงกงสุลซาอุฯ เมื่อ 18 ต.ค. (AP Photo/Emrah Gurel)

บันทึกเสียงดังกล่าว มีความยาว 7 นาที เจ้าหน้าที่ตุรกีค่อยๆ เผยรายละเอียดกับสืิ่อ ว่า เสียงที่สนทนากันนั้นเป็นจังหวะที่นายคาช็อกกีถูกฆ่าอย่างทรมาน ลักษณะฆ่าหั่นศพทั้งเป็นโดยวางยา จึงมีเสียงร้องทรมานของเหยื่อที่ยังไม่สิ้นใจในทันที ถูกตัดนิ้วทีละนิ้วและถูกใช้เลื่อยหั่นอวัยวะอื่น จากนั้นจึงแยกศีรษะ ระหว่างการสังหารโหดนี้ ผู้เชี่ยวชาญชำแหละศพก็ใส่เฮดโฟนฟังเพลงไปด้วย ก่อนใช้น้ำกรดทำลายชิ้นส่วนศพ

ตำรวจตุรกีเข้าไปหาหลักฐานในสถานกงสุลซาอุฯ (AP Photo/Emrah Gurel)

เดอะซัน รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวสอบสวนของตุรกี ว่า ผู้ทำหน้าที่หั่นอวัยวะและชำแหละศพดังกล่าว คือ ดร.ซาลาห์ อัล-ตูไบจี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ สังกัดกระทรวงกิจการในประเทศของซาอุฯ เป็นนักเรียนเก่าอังกฤษ เคยมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยกลาสโกว ในสกอตแลนด์

ดร.ตูไบจี ผู้เชี่ยวชาญชันสูตรพลิกศพและหั่นศพ

เมื่อปี 2557 ดร.ตูไบจีเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นผู้ออกแบบคลินิกให้ทีมชันสูตรพลิกศพ ทำงานนี้ได้ง่ายขึ้นและแยกส่วนอวัยวะได้ทันทีที่จุดเกิดเหตุอาชญากรรม โดยใช้เวลาเพียง 7 นาที

ฆ่าหั่นทั้งเป็นนักข่าว

เจ้าหน้าที่ตุรกีตรวจค้นสถานกงสุลนาน 9 ชั่วโมง จนถึงค่ำ เมื่อ 18 ต.ค. (AP Photo/Emrah Gurel)

คลิปเสียงนี้เป็นหลักฐานที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐขอจากทางการตุรกี ถ้าหากมีอยู่จริง หลังจากตุรกีเผยรายละเอียดคลิปสยอง และเปิดเผยตัวบุคคล 9 นายในทีมต้องสงสัยเป็นนักฆ่า 15 นายที่เดินทางจากซาอุฯ มายังนครอิสตันบูล

เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาของมกุฎราชกุมารโผล่ที่สถานกงสุลวันเกิดเหตุ 2 ต.ค. / AP

ในจำนวนนี้ ตุรกีเปิดภาพจากวงจรปิด วันที่ 2 ต.ค. ระบุว่า เป็นสมาชิกในหน่วยอารักขา มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุฯ เดินทางมาพร้อมผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ ถึงสถานกงสุลในเวลา 09.55 น. ส่วนนายคาช็อกกี เดินทางเข้าไปในอาคารเวลา 13.14 น. แล้วไม่ออกมาอีกเลย

แม้ว่าภาพที่นายพอมเพโอพูดคุยกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ดจะดูยิ้มแย้ม แต่เนื้อหาคำเตือนนั้นแรงมาก. (Leah Millis/Pool via AP)

ข้อสงสัยที่โยงใยไปถึงมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ดดังกล่าว มีรายงานว่า ทำให้นายไมก์ พอมเพโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งเคยเป็นผู้อำนวยการซีไอเอ ทูลเตือนว่า คดีดังกล่าวอาจกระทบต่อราชบัลลังก์ของพระองค์ในอนาคต ขณะที่เจ้าชายทรงยืนยันว่าพระองค์ไม่เกี่ยวข้องและไม่ทราบเรื่อง

อ่านข่าว : สหรัฐเตือนเจ้าชายซาอุฯ อนาคตราชบัลลังก์สั่นแน่ถ้าตอบไม่เคลียร์เรื่องนักข่าวหาย

นายพอมเพโอเข้ารายงานข้อมูลให้นายทรัมป์ทราบที่ทำเนียบขาว (AP Photo/Evan Vucci)

วันเดียวกัน กองบรรณาธิการ วอชิงตันโพสต์ ตัดสินใจตีพิมพ์บทความสุดท้ายของนายคาช็อกกี ในชื่อว่า “สิ่งที่โลกอาหรับต้องการมากที่สุดคือการแสดงออกอย่างเสรี” เนื้อหา สะท้อนอย่างชัดเจนถึงจุดยืนและเจตนารมณ์สนับสนุนเสรีภาพในโลกอาหรับ และนายคาช็อกกีเอาชีวิตตนเองเข้าแลก

วอชิงตันโพสต์ลงบทความสุดท้ายของนายคาช็อกกี

นางคาเรน อัตตียาห์ บก.ข่าวบทความเชิงข้อคิดเห็นของวอชิงตันโพสต์ เขียนเกริ่นว่า เพิ่งจะตีพิมพ์บทความดังกล่าว เพราะเดิมยังหวังว่านายคาช็อกกีจะกลับมาช่วยกันเรียบเรียงก่อน แต่ขณะนี้ต้องทำใจแล้วว่าคงไม่มีโอกาสนั้นแล้ว

“ดิฉันต้องยอมรับแล้วว่าเขาคงไม่กลับมาอีกแล้ว นี่จะเป็นบทความของจามาลที่ดิฉันจะได้ตรวจเป็นครั้งสุดท้าย” อัตตียาห์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน