สะพานข้ามทะเลยาวที่สุดในโลก จีนสร้างเชื่อมฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า

สะพานข้ามทะเลยาวที่สุดในโลก – วันที่ 23 ต.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากฮ่องกงและมาเก๊า ร่วมพิธีเปิดสะพานข้ามทะเลยาวที่สุดในโลก 55 กิโลเมตรแล้วอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ที่เมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของแผ่นดินใหญ่ จุดเชื่อมแดนระหว่างฮ่องกง-มาเก๊า

สะพานข้ามทะเลเชื่อมระหว่างฮ่องกงและมาเก๊า ไปยังทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ทอดยาว 55 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 652,000 ล้านบาท

AFP

ถือเป็นส่วนสำคัญของแผนพัฒนาบริเวณอ่าวกวางตุ้ง ฮ่องกง และ มาเก๊า (Greater Bay Area) ครอบคลุมจีนตอนใต้ 56,000 ตารางกิโลเมตร กินพื้นที่ 11 เมือง รวมทั้งฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งมีประชากร 68 ล้านคน เดิมทีจะเปิดใช้งานเมื่อปี 2559 แต่เกิดความล่าช้าและข้ามมาเปิดใช้งานในปีนี้

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในพิธีเปิดสะพานที่จูไห่. (AP Photo/Andy Wong)

ผู้เสนอแนวคิดการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลชี้ว่า จะย่นระยะเวลาเดินทางระหว่างเมืองจาก 3 ชั่วโมง เหลือเพียง 30 นาที ทำให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาภายใน Greater Bay Area ได้อย่างง่ายดาย

AFP

นายแฟรงก์ ชาน เลขาธิการองค์การขนส่งฮ่องกง ระบุว่า สะพานข้ามทะเลจะลดเวลาการเดินทางระหว่างฮ่องกงและพื้นที่สามเหลี่ยมปาก (Western Pearl River Delta) อย่างมีนัยสำคัญ หากขับรถยนต์จากฮ่องกงจะไปถึงภายใน 3 ชั่วโมง

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมด้วยนางคารินา หลั่ม ผู้ว่าการฮ่องกง (AP Photo/Andy Wong)

อย่างไรก็ตาม แม้จะเน้นเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ แต่รถยนต์ไม่สามารถข้ามสะพานข้ามทะเลได้โดยไม่มีใบอนุญาตพิเศษ จะต้องจอดไว้ท่าเรือในฝั่งฮ่องกง แล้วขึ้นรถรับส่ง (Shuttle bus) ราคาเที่ยวละ 8-10 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 260-300 บาท) ขึ้นอยู่กับเวลาแต่ละวัน หรือรถรับจ้างพิเศษที่ผ่านการเข้าเมืองก็ได้

วิจารณ์รุนแรง

โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลยาวที่สุดในโลกกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในฮ่องกง และเกรงว่านักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่จะหลั่งไหลทะลักมาเข้ามายังฮ่องกง

Chinese President Xi Jinping applauds on stage after official opening of the China-Zhuhai-Macau-Hong Kong Bridge in Zhuhai in south China’s Guangdong province, Tuesday, Oct. 23, 2018. (AP Photo/Andy Wong)

ข้อมูลจากปี 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามายังฮ่องกงมากถึง 56.7 ล้านคน เยอะกว่าอังกฤษที่มีนักท่องเที่ยวในปีเดียวกันเพียง 36.7 คน ทั้งที่ประเทศใหญ่กว่าฮ่องกง

นอกจากนี้ สะพานข้ามทะเลฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อดึงให้ฮ่องกง ซึ่งมีระบบกฎหมายกึ่งประชาธิปไตย ตุลาการอิสระ และมีเสรีภาพการประท้วงหลายครั้ง จะเข้าใกล้เงื้อมมืออำนาจของรัฐบาลจีนมากขึ้น

AFP

คลาวเดีย โม ผู้ร่างกฎหมายฮ่องกง กล่าวว่า สะพานข้ามทะเลเชื่อมฮ่องกงไปจีนแผ่นดินใหญ่เหมือน “สายสะดือ” พร้อมชี้ถึงการใช้เงินจำนวนมหาศาลกว่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 3 แสนล้านบาท) ทั้งที่ฮ่องกงมีปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยอย่างหนักและความยากจนที่กระจายเป็นวงกว้าง

“ฮ่องกงจำเป็นต้องจัดสรรเงินให้กับการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลจำนวนมาก แต่พวกเราจะไม่เห็นประโยชน์มากมายอะไรจากสิ่งนี้” คลาวเดีย โม กล่าว

ความมุมานะทางวิศวกรรมครั้งใหญ่

https://cdn.cnn.com/cnn/.e/interactive/html5-video-media/2018/04/23/bridge_video.mp4

โครงสร้างของสะพานข้ามทะเลฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ใช้เหล็กกล้า น้ำหนักถึง 4 แสนตัน (มากกว่า 4.5 เท่า ของเหล็กกล้าที่ใช้ก่อสร้างสะพานโกลเดน เกต ในนครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา) สามารถต้านทานแผ่นดินไหวได้มากถึงขนาด 8 แมกนิจูด พายุไต้ฝุ่น และแรงปะทะเรือสินค้าขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ยังมีอุโมงค์ใต้น้ำ ความยาว 6.7 กิโลเมตร เพื่อเป็นช่องทางหลีกเลี่ยงเส้นทางการขนส่งบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไข่มุก อุโมงค์ดังกล่าวเชื่อมระหว่างเกาะเทียม 2 เกาะ แต่ละเกาะมีพื้นที่ 1 แสนตารางกิโลเมตร และตั้งอยู่บนผืนน้ำค่อนข้างตื้น

AFP

สำหรับความสำเร็จด้านวิศวกรรม การก่อสร้างสะพานข้ามทะเลมีความขัดแย้งในตัวเอง เนื่องจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไข่มุกเป็นบ้านโลมาชมพู ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากการขยับขยายที่ดินจำนวนมากในฮ่องกงและเมืองอื่นๆ

จนบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์แสดงความกังวลว่า สะพานข้ามทะเลและการขยายพื้นที่สนามบินฮ่องกงจะเป็นการ “ตอกฝาโลง” โลมาชมพูที่กำลังลดลงเรื่อยๆ

แม้ว่ารัฐบาลฮ่องกงแก้ปัญหาด้วยการสร้างอุทยานน้ำเพิ่มเติมเพื่อปกป้องโลมาชมพูและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อาจสายเกินไปแล้วที่จะแก้ปัญหาลดผลกระทบจากการก่อสร้างสะพานข้ามทะเล

The Hong Kong-Zhuhai-Macau Bridge (AP Photo/Kin Cheung)

สะพานยังเผชิญหน้ากับกระแสวิจารณ์สาธารณะที่พิจารณาถึงมาตรฐานความปลอดภัย เนื่องจากมีคนงานเสียชีวิต 7 ราย ในการก่อสร้างสะพาน และมีคนงานอีก 275 คน บาดเจ็บ แต่ทางการฮ่องกงกล่าวโทษถึงสาเหตุการเสียชีวิตของคนงานว่าเกิดจากการขาดแคลนกำลังคน และศาลก็มีคำสั่งปรับผู้รับเหมาคู้่สัญญาที่ก่อสร้างสะพานอันมาจากสาตเหุนี้ด้วย

นอกจากนี้ สะพานข้ามทะเลฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ยังมีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรฐานด้ายความปลอดภัยด้วย เนื่องจากระหว่างการก่อสร้าง มีคนงานเสียชีวิต 7 ราย และคนงานบาดเจ็บอีก 275 แต่ทางการฮ่องกงออกมากล่าวโทษว่า สาเหตุที่คนงานเสียชีวิตเกิดจากกำลังคนงานก่อสร้างขาดแคลน และกลายเป็นเหตุให้ศาลตัดลินโทษปรับบริษัทผู้เหมาะคู่สัญญาที่ก่อสร้างสะพานข้ามทะเลด้วย

อ่านข่าวก่อนหน้า: จีนเหนือฮ่องกง บนไฮสปีดเทรน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน