ธนูยิงทะลุแก้มเลือดอาบปาก แผนสั่งฆ่า เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าในเคนยา

ธนูยิงทะลุแก้มเลือดอาบปาก – วันที่ 22 ต.ค. เดลี่เมล์ รายงานเรื่องราวของ วิลเลียม ฮอฟเมย์ร เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า อายุ 51 ปี ที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ หลังจากถูกคนร้ายพยายามลอบสังหารโดยยิงลูกธนูเหล็กแหลมทะลุแก้มจนเลือดออกในปาก ภายในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าโอลาร์โรในเคนยา

เหตุเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติการลาดตระเวน ก่อนเกิดเหตุ นายวิลเลียมเห็นคนชนเผ่ามาซายกำลังนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ จึงปลุกให้ตื่นเพื่อเตือนว่า มีสิงโตจ่าฝูงกำลังออกล่าเหยื่ออยู่ใกล้ๆ

แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น นายวิลเลียมรู้สึกอะไรบางอย่างหวดเข้าที่แก้มอย่างแรง หลังจากมีชายผิวดำคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้อยู่ใกล้ๆ แล้วยิงลูกธนูเสียบทะลุเข้าแก้มข้างขวาของนายวิลเลียม ส่วนปลายอีกด้านยื่นออกมาจากปาก จนมีเลือดออกเต็มปาก

เมื่อนายวิลเลียมหันมาดูก็เห็นคนซุ่มยิงกำลังเล็งลูกธนูอีกดอก จึงรีบหันและวิ่งกลับไปยังรถลาดตระเวนที่จอดไว้ใต้ต้นไม้ และเมื่อหันไปดูก็ยังเห็นคนยิงธนูเตรียมยิงธนูอีก นายวิลเลียมจึงชักปืนขึ้นมายิงเตือนสวนกลับไป 2 นัด คนร้ายก็หันหลังวิ่งหนีกลับไปเข้าในป่าพุ่มไม้ นายวิลเลียมจึงขับรถเพื่อไล่ล่าคนร้ายให้ได้

นายวิลเลียมเล่าว่า เวลานั้น รู้สึกเจ็บปวดทรมานทั้งใบหน้า เนื่องจากปลายลูกธนูที่เสียบทะลุปากยื่นออกไปนอกหน้าต่างรถ แล้วกระแทกกับพุ่มไม้ทุกพุ่มที่ขับรถเข้าไปเพื่อไล่ล่าตัวมือยิงธนู จึงต้องหักก้านธนูที่ยื่นยาวออกไป หลังผ่านไป 1 ชั่วโมง มือยิงธนูก็หนีขึ้นเขาไป

ขณะเดียวกัน นายวิลเลียมไม่สามารถใช้วิทยุสื่อสารเรียกกำลังเสริมมาได้ เนื่องจากมีเลือดออกในปากเยอะ อีกรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น หลังขับรถไล่ล่ากว่าชั่วโมง จึงตัดสินใจหักรถเลี้ยวกลับไปยังคลินิกท้องถิ่นทันที

“เมื่อผมเดินเข้าไปคลินิก ทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าจะเห็นคนมีเดินเข้ามาพร้อมลูกธนูเสียบทะลุเข้าไปในปากมาก่อน ทีมแพทย์ให้ผมนั่งลง จากนั้นเริ่มจับก้านธนูเข้าๆ ออกๆ แต่กลับทำให้เลือดออกในปากเยอะขึ้นๆ จนรู้สึกรำคาญ ผมก็เลยบอกจะเอาออกเอง โดยจับปลายธนูแล้วดึงออกมาจากแก้ม” นายวิลเลียมกล่าว

นายวิลเลียมกล่าวว่า ปลายธนูเป็นเหล็กแหลมคมโหดร้าย แต่โชคดีที่ไม่ได้เคลือบยาพิษไว้ด้วย พร้อมระบุว่า เป็นความพยายามลอบสังหารโดยไม่ต้องสงสัย เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลมาว่า มีคนว่าจ้างฆ่าตนและรองหัวหน้าผู้พิทักษ์ป่าอีกคน ปกติแล้ว ตนและเขาจะลาดตระเวนด้วยกัน แต่วันเกิดเหตุตนอยู่คนเดียวตามลำพัง แต่หลังจากนี้ไปจะไม่ให้มีเจ้าหน้าที่อยู่คนเดียวอีก

นายวิลเลียมกล่าวอีกว่า หลังจากที่พยาบาลทายาฆ่าเชื้อบนแผลและบอกว่าไม่จำเป็นต้องเย็บแผล ตนฉันจึงลุกขึ้นเดินออกไปจากคลินิกและกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าต่อ วันถัดมาหลังเกิดเหตุ ตนและผู้พิทักษ์ป่าก็ช่วยเหลือช้างตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บและเป็นแผล

นายวิลเลียมอาศัยอยู่ในเมืองเกรแฮมส์ทาวน์ จังหวัดอีสต์เทิร์นเคป ประเทศแอฟริกาใต้ มาทำงานเป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ป่าในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าโอลาร์โรในเคนยา ซึ่งมีพื้นที่กว่า 21,000 เฮกตาร์ (131,250 ไร่) เป็นเวลา 6 ปีแล้ว ระหว่างนี้ เมื่อ 4 ปีก่อน ถูกนักล่าสัตว์ยิงเข้าที่แขนขวาจนต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่

โฆษกตำรวจท้องถิ่นระบุว่า กำลังดำเนินการสืบสวนและติดตามค้นหาตัวมือยิงธนู โดยมีชุมชนชนเผ่ามาซายร่วมมือกับตำรวจในการติดตามค้นหาด้วย

ทั้งนี้ เขตอนุรักษ์สัตว์ป่าโอลาร์โรเป็นที่อยู่อาศัยของช้าง สิงโต เสือดาว ควาย และบรรดาสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ภายใต้การปกป้องดูแลจากวิลเลียมและผู้พิทักษ์ป่าอีก 35 ชีวิต และติดอยู่กับเขตสงวนธรรมชาติและสัตว์ป่า “มาซาย มารา”

“ตลอดปีที่ผ่านมา พวกเราไม่มีสัตว์ป่าถูกฆ่าจากน้ำมือของนักล่าสัตว์ เนื่องด้วยการเฝ้าระวังขั้นสูงและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของผู้พิทักษ์ป่า แต่สิ่งเหล่านี้ก็นำศัตรูมาสู่พวกเราด้วย และการถูกซุ่มโจมตีก็เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจครับ

ผมรู้สึกวิตกเล็กน้อยเมื่อแม่ผมทราบเรื่อง แต่เธอโทรศัพท์มาหาผมและพูดว่า หากผมถูกลูกธนูยิงอีกลูกก็จะได้เข็มถักนิตติ้ง 1 คู่ ครับ” นายวิลเลียม พ่อลูกสาม กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน