ไลอ้อนแอร์ดิ่ง กล่องดำฟ้องตัววัดความเร็วเจ๊ง มีปัญหา4เที่ยวบินท้าย
ไลอ้อนแอร์ดิ่ง – เมื่อ 5 พ.ย. เอพี รายงานความคืบหน้าการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 สายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซีย ตกกลางทะเลชวา คร่าชีวิตผู้คนทั้งลำ 189 ราย เมื่อ 29 ต.ค. ว่าข้อมูลจากกล่องดำเผยให้เห็นว่า 4 เที่ยวบินสุดท้ายของเครื่องลำมรณะล้วนมีปัญหาที่ตัววัดความเร็ว (สปีด)
นายโซเอร์จานโต ทจาห์โจโน ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติของอินโดนีเซีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ข้อมูลความยาว 69 ชั่วโมงจากเครื่องบันทึกการบิน ซึ่งทีมประดาน้ำพบเมื่อสัปดาห์ก่อน พบความผิดปกติที่ทางเทคนิค กล่าวคือ เที่ยวบินก่อนหน้าเที่ยวบินมรณะ 610 จากเมืองเดนปาซาร์ เกาะบาหลี ไปยังกรุงจาการ์ตา ล้วนมีปัญหาที่ตัวชี้วัดความเร็วของเครื่อง หรือ airspeed indicator
เจ้าหน้าที่กู้ซากเครื่องบินจากทะเล REUTERS/Beawiharta
สอดคล้องกับรายงานที่พบว่า วันเกิดเหตุ เครื่องบินด้วยความเร็วและระดับความสูงผิดพลาด แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะนำไปซ่อมแล้ว เมื่อพบปัญหากับเที่ยวบินบาหลี-จาการ์ตา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานจากสภาพชิ้นส่วนของเครื่องบินที่พบว่า เที่ยวบินเจที 610 อาจดิ่งตกด้วยความเร็วมากกว่า 1,000 ก.ม.ต่อช.ม. และกระแทกส่วนปลายหัวเครื่องบินลงทะเล
ด้าน นายรุสดี กิรานา ผู้ร่วมก่อตั้งสายการบิน ไลอ้อน แอร์ แม้ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการพบปะระหว่างญาติผู้เคราะห์ร้ายกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยและค้นหา แต่ก็เดินทางในห้องดังกล่าวเพื่อไว้ขอโทษญาติผู้โดยสารที่โกรธแค้น หลังจากญาติเหล่านี้เรียกร้องให้ให้นายกุสนัน กิรานา พี่ชายของนายรุสดี ผู้ก่อตั้งสายการบิน ออกมาพบหน้าด้วยตนเอง
นายรุสดี กิรานา ไหว้ขอโทษญาติของผู้เคราะห์ร้าย (AP Photo/Achmad Ibrahim)
พ่อของผู้เคราะห์ร้ายรายหนึ่ง เป็นตัวแทนกล่าวว่า “ผมต้องการให้นายรุสดี กิรานา และทีมงานของเขาฟังให้ดี ตั้งแต่เกิดเหตุวิกฤตนี้ ผมไม่เคยติดต่อไลอ้อนแอร์ได้เลย ทั้งๆ ที่เราสูญเสียลูกไป แต่กลับไม่มีความเห็นอกเห็นใจใดๆ ออกมาจากไลอ้อนแอร์เลย”
ญาติผู้โดยสารร่ำไห้ (AP Photo/Achmad Ibrahim)
ทั้งนี้ หลังจากการพบปะดังกล่าว นายรุสดีรีบเดินทางออกไป หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน ขณะที่ญาติผู้สูญเสียต่างรอผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หลังจากทีมค้นหากู้ชิ้นส่วนร่างขึ้นมาได้แล้ว 140 ชุด และระบุตัวตนได้ 14 ราย
…………………
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
