เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ เดโมแครตลุ้นครองสภาล่าง เกย์คนแรกนั่งผู้ว่าการรัฐ

เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ – เมื่อวันที่ 7 พ.ย. เอพี รายงานความคืบหน้าการนับคะแนนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกาซึ่งได้รับความสนใจจากนานาประเทศทั่วโลก ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะนำพรรครีพับลิกันครองที่นั่งข้างมากในสภาคองเกรสต่อไปหรือไม่ และควรได้โอกาสลงรับสมัครต่ออายุเป็นประธานาธิบดีสมัยสองหรือไม่

อ่านข่าว : เลือกตั้งสหรัฐฯกลางสมัย บอกอะไรอนาคตการเมือง ทรัมป์

การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้เป็นการเลือกผู้แทนประชาชนในสภาล่าง 435 ที่นั่ง สภาสูง 35 ที่นั่ง และผู้ว่าการรัฐ 36 มลรัฐ ผลการนับคะแนนช่วงต้นบ่งบอกว่า พรรคเดโมแครตที่มีอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ช่วยเดินสายช่วยหาเสียงมีแนวโน้มจะได้เสียงข้างมากในสภาล่าง

ส่วนในสภาสูง มีแนวโน้มว่าพรรครีพับลิกันจะครองที่นั่งข้างมากต่อไปได้ตามที่ผู้คนคาดคะเนไว้ หลังตัวแทนพรรครีพับลิกันทยอยคว้าชัย เช่น นายเท็ด ครูซ นักการเมืองแนวขวาเข้มข้น ยึดเก้าอี้ส.ว.รัฐเท็กซัสต่อไปอีกสมัย ขณะที่รัฐฟลอริดาเป็นพื้นที่แข่งขันที่สูสีที่สุดและยังไม่แน่ชัดว่าพรรคใดจะได้ชัยชนะ

ด้านผลเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ นายจาเร็ด โพลิส จากเดโมแครต สร้างความฮือฮา ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์เป็นเกย์ที่เปิดเผยตัวคนแรกที่ชนะเก้าอี้ผู้ว่าการรัฐ หลังเฉือนชนะคู่แข่ง วอล์กเกอร์ สเตเพิลตัน ด้วยคะแนนร้อยละ 51.4 ต่อ 45.2 ที่รัฐโคโลราโด

เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ

เกย์เผยตัวคนแรกที่ชนะเก้าอี้ผู้ว่าการรัฐ

สำหรับประธานาธิบดีทรัมป์ การหาเสียงเลือกตั้งหนนี้ ชูนโยบายหลักของพรรคจะเป็นการสร้างฝันของชาวอเมริกันให้เป็นความจริง แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามว่ามักใช้คำพูดแนวเหยียดสีผิว ทั้งยังสร้างความแตกแยกด้วยการกล่าวหาผู้ลี้ภัยว่าเป็นผู้รุกรานสหรัฐ

ส่งผลให้บรรดาสื่อสำนักใหญ่ เช่น ซีเอ็นเอ็น และฟ็อกซ์ นิวส์ ถอดโฆษณาฝ่ายนายทรัมป์ออก เนื่องจากมีเนื้อหาที่เหยียดเผ่าพันธุ์ โดยกล่าวหาผู้ลี้ภัยเป็นผู้รุกราน และกล่าวโทษพรรคเดโมแครตว่าเป็นผู้นำผู้ลี้ภัยเข้ามาก่อคดีอุกฉกรรจ์

President Donald Trump greets his daughter Ivanka Trump at a campaign rally at the Allen County War Memorial Coliseum in Fort Wayne, Ind., Monday, Nov. 5, 2018. (AP Photo/Michael Conroy)

ความดุเดือดของการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐยังลุกลามไปถึงโลกไซเบอร์ด้วย หลังเฟซบุ๊ก สื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์ชั้นนำของโลก บล็อกบัญชีผู้ใช้ 30 บัญชีบนเฟซบุ๊ก และอีก 85 บัญชีในอินสตาแกรม หลังตำรวจพบความเชื่อมโยงว่าบัญชีกลุ่มดังกล่าวอาจเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างชาติที่มีเป้าหมายแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน