คนขับแท็กซี่แค้นสาวนศ. ปฏิเสธรัก สาดน้ำมัน-ย่างสด สลดแม่เหยื่อหัวใจวายหลังรู้ข่าวลูกสิ้นใจ

คนขับแท็กซี่แค้นสาวนศ. – วันที่ 24 ธ.ค. ไทมส์ออฟอินเดีย และ นิวส์ 18 รายงานเหตุสะเทือนใจใน รัฐอุตตราขัณฑ์ ทางตอนเหนือของ ประเทศอินเดีย ว่า สาวนักศึกษา วัย 18 ปีที่ถูกคนขับรถแท็กซี่ วัย 31 ปี จุดไฟเผา แก้แค้นที่โดนปฏิเสธความรักเมื่อสัปดาห์ก่อน เสียชีวิตลงแล้วหลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้เพียง 6 วัน เพราะทนพิษบาดแผลไฟคลอกกว่าร้อยละ 80 ของร่างกายไม่ไหว

ซ้ำร้ายแม่ของหญิงสาวยังเกิดภาวะหัวใจวายฉับพลันจนต้องเข้ารับการรักษาหลังทราบข่าวว่าลูกสาวเสียชีวิต ขณะที่กลุ่มนักศึกษา เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยของเหยื่อสาว พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนมาก รวมตัวเรียกร้องให้ทางการตัดสินประหารชีวิตชายคนร้าย

คนขับแท็กซี่แค้นสาวนศ.

An 18-year-old woman, who was undergoing treatment at Safdarjung Hospital here after allegedly being set on fire by her stalker for rejecting his romantic advances, succumbed to injuries on Sunday, officials said. /abpnews.abplive.in/

ตำรวจเปิดเผยว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 16 ธ.ค. ขณะที่หญิงสาวกำลังเดินทางจากมหาวิทยาลัยกลับไปบ้านในเมืองฤาษีเกษ ชายคนขับแท็กซี่ซึ่งแอบสะกดรอยตามพยายามแสดงความรักต่อหญิงสาว แต่ถูกปฏิเสธกลับมา เลยโกรธเกรี้ยวหยิบถังบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงออกมาจากรถและสาดใส่หญิงสาว ก่อนจุดไฟเผาทั้งเป็นและหลบหนีไปได้

ระหว่างนั้นชาวบ้านได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้องอย่างทรมานจึงรีบมาดูและพาตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่น ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ธ.ค. หญิงสาวมีอาการทรุดหนัก ทรุดหนักเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ฉุกเฉินไปยังโรงพยาลในนครเดลี แต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ และเสียชีวิตช่วงเช้าวันที่ 24 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น

คนขับแท็กซี่แค้นสาวนศ.

File Photo: Angry students of the woman’s university have demanded capital punishment for the accused who was arrested on the same day the crime was committed. /jagran.com/

ขณะเดียวกัน ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว และอยู่ระหว่างสอบปากคำเพื่อดำเนินคดี ถือเป็นอีกกรณีที่ตอกย้ำวิกฤตความรุนแรงทางเพศในอินเดีย โดยเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งเกิดเหตุชายคนร้ายข่มขืนและปล้นนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ วัย 48 ปี ในรัฐกัว ซึ่งเป็นพื้นทที่เดียวกับที่เคยเกิดเหตุชายท้องถิ่นข่มขืนและฆ่านักท่องเที่ยวสาวชาวไอริช ในปี 2560

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน