‘ฮุนเซน’ สั่งเรียกคืนพาสปอร์ตที่ออกให้ต่างชาติ หลังข่าวสะพัดเคยออกให้ ‘ยิ่งลักษณ์’
‘ฮุนเซน’สั่งเรียกคืน!ปมปูถือพาสปอร์ตกัมพูชา – วันที่ 15 ม.ค. เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชามีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกคืนตรวจสอบหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต ที่เคยออกให้กับบุคคลที่ไม่ปรากฏว่ามีสัญชาติกัมพูชาโดยกำเนิด โดยย้ำว่าการออกหนังสือเดินทางประเภทดังกล่าวให้กระทำได้เฉพาะกรณีที่ “จำเป็นอย่างที่สุด” เท่านั้น
พนมเปญ โพสต์ สื่อท้องถิ่นของกัมพูชา ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวของผู้นำกัมพูชามีความยาว 2 หน้ากระดาษ สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหนังสือเดินทางประเภทดังกล่าวกลับมาตรวจสอบอย่างละเอียด โดยคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นในวันเดียวกับที่มีรายงานข่าวกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งลี้ภัยทางการเมืองอยู่นอกประเทศตั้งแต่ปี 2560 ครอบครองพาสปอร์ตกัมพูชา
เอกสารจากหน่วยงานเอกชนในฮ่องกง เปิดเผยให้เห็นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาในการเข้าดำรงตำแหน่งผู้บริหารเอกชนในฮ่องกงแห่งหนึ่ง ที่ถูกควบรวมบริษัทเมื่อเดือนส.ค. 2561โดยยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้พาสปอร์ตเล่มดังกล่าวมาได้อย่างไร และเป็นหนังสือเดินทางประเภทบุคคลทั่วไป หรือการทูต
ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพี่ชายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และประสบกับชะตากรรมต้องลี้ภัยทางการเมืองแบบเดียวกัน เคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา ขณะที่รายงานข่าวการใช้หนังสือเดินทางของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ่งทำให้การคาดการณ์ที่อดีตนายกฯ ผู้นี้ใช้ช่องทางผ่านกัมพูชาในช่วงหลบหนีออกนอกประเทศก่อนการตัดสินโทษจำคุก 5 ปี คดีจำนำข้าว ยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้น ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นยืนกรานความบริสุทธิ์ และระบุว่าการตัดสินโทษดังกล่าวเป็นความพยายามกลั่นแกล้งทางการเมือง
รายงานระบุว่า ชาวต่างชาติซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล และผู้ช่วยของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง รวมทั้งบุคคลที่ได้สัญชาติกัมพูชา สามารถขอหนังสือเดินทางประเภทการทูตจากทางการได้ แต่คำสั่งล่าสุดดังกล่าวมีขึ้นโดยนายฮุนเซน อ้างว่า เพื่อแก้ไขปัญหาไม่ให้หนังสือเดินทางประเภทดังกล่าวถูกนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสม ยกเว้นกรณีจำเป็นจริงๆ
“กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมีหน้าที่ต้องเรียกคืนหนังสือเดินทางของบุคคลที่ไม่ได้เกิดในแผ่นดินกัมพูชาแต่ได้รับผ่านช่องทางขออนุมัติจากการเป็นที่ปรึกษาและผู้ช่วยเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อนำมามอบให้กับกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างชาติภายในเวลาไม่เกิน 1 เดือน”
และว่า “กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชามีหน้าที่ต้องตรวจสอบและยกเลิกหนังสือเดินทางของบุคคลใดก็ตามที่ไม่ปรากฏว่ามีสัญชาติกัมพูชาโดยกำเนิด” นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังมีคำสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการสกัดกั้นไม่ให้มีบุคคลที่ครอบครองหนังสือเดินทางประเภทดังกล่าวนำพาสปอร์ตมาใช้เพื่อเดินทางเข้าออกกัมพูชา
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาแถลงปฏิเสธว่าไม่เคยออกหนังสือเดินทางให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงกัมพูชาปฏิเสธว่าทางการไม่เคยออกพาสปอร์ตให้กับชาวต่างชาติ
ขัดแย้งกับรายงานจาก เขมร ไทมส์ สื่อท้องถิ่นกัมพูชา ที่เคยสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่คนเดิมดังกล่าวเมื่อปี 2561 เคยระบุว่า ทางการกัมพูชาเคยออกหนังสือเดินทางให้ชาวต่างชาติ 1,518 คน ช่วงปี 2557-2560 โดยบุคคลกลุ่มนี้เป็นผู้ที่จดทะเบียนสมรสกับชาวกัมพูชา หรือเข้ามาลงทุนทำให้ได้สัญชาติกัมพูชา
