เมื่อวันที่ 6 ก.พ. บีบีซีรายงานว่า คณะกรรมาธิการค้นหาข้อเท็จจริงกรณีเด็กถูกละเมิดทางเพศในโบสถ์คาทอลิกของออสเตรเลีย พบข้อมูลที่น่าตกใจว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมามีเด็กตกเป็นเหยื่อเกิน 4,440 คน และมีบาทหลวงถึงร้อยละ 7 เป็นผู้กระทำ
คณะกรรมาธิการค้นหาข้อเท็จจริงระดับสูงสุดชุดนี้ตั้งขึ้นในปี 2556 เพื่อสืบสวนกรณีการละเมิดทางเพศและการทารุณกรรมเด็กในหลายสถาบันทั่วออสเตรเลีย ทั้งองค์กรที่เป็นศาสนาและไม่ใช่ศาสนา เช่น สถาบันการศึกษา ชมรมกีฬา พบว่ามีโบสถ์กว่า 1,000 แห่งเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศ และเด็กถูกละเมิดมากกว่า 4,440 คนช่วงปี 2523-2558
คณะกรรมาธิการค้นหาข้อเท็จจริง / REUTERS
เกล เฟอร์เนสส์ นักกฎหมายหญิงที่ช่วยคณะกรรมาธิการสอบสวน กล่าวว่าปัญหาละเมิดที่เกิดขึ้นเด็กมักถูกละเลย ไม่ได้สอบสวน บาทหลวงและบุคคลทางศาสนาถูกย้ายไปยังชุมชนหรือตำบลต่างๆแทบไม่รู้ถึงภูมิหลังของตัวแทนในศาสนาเลย
“เรื่องราวการละเมิดทางเพศของเด็กแต่ละคนแทบจะหดหู่ไม่ต่างกันเลย” เฟอร์เนสส์กล่าว พร้อมระบุว่า เด็กผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อมีมีอายุโดยเฉลี่ย 11 ปี 5เดือน ส่วนเด็กผู้หญิงมีอายุประมาณ 10 ปี 5 เดือน กรณีตัวอย่างแต่ละกรณีกว่าจะเป็นรายงานออกมาใช้เวลายาวนานโดยเฉลี่ยถึง 33 ปี
นักกฎหมายหญิงเผยอีกว่าร้อยละ 60 ของผู้รอดจากการละเมิดทางเพศล้วนมากจากที่เกี่ยวข้องกับความเชื่ออย่างองค์กรทางศาสนาทั้งสิ้น ซึ่ง 2 ใน 3 ของสัดส่วนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับโบสถ์คาทอลิก
ด้านฟรานซิส ซุลลิแวน หัวหน้าสภาตรวจสอบข้อเท็จจริง ความยุติธรรมและการเยียวยา กล่าวว่า หลังจากมีรายงานจากคณะกรรมาธิการสะท้อนให้เห็นถึงข้อผิดพลาดอย่างมหันต์ในการปกป้องเด็กของโบสถ์
“เป็นตัวเลขที่น่าตกใจ เป็นโศกนาฏกรรม ที่เด็กป้องกันตัวเองไม่ได้เลย และในฐานะชาวคริสต์คาทอลิก นี่เป็นเรื่องน่าละอายของเรา” นายซุลลิแวนกล่าวทั้งน้ำตา
รายงานระบุในตอนท้ายว่า วาติกันจับตากรณีนี้อย่างใกล้ชิด พระคาร์ดินัล จอร์จ เพลล์ ผู้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของสมเด็จพระสันตปาปา ฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักร เคยถูกไต่สวนว่าในสมัยที่อยู่ออสเตรเลียนั้น เจ้าหน้าที่โบสถ์ให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กอย่างไร
