แอปเปิ้ลกุมขมับยอดขายไอโฟนดิ่งเหว ครั้งแรกรอบ 15 ปี
แอปเปิ้ลกุมขมับยอดขายไอโฟนดิ่งเหว – วันที่ 30 ม.ค. เอพีรายงานว่า แอปเปิ้ล ผู้พัฒนาไอโฟนซึ่งเผชิญกับภาวะยอดจำหน่ายไอโฟนที่ลดลงต่อเนื่องต้องประสบกับความยากลำบากอีกครั้งหลังยุทธวิธีทางการตลาดที่ขึ้นราคาไอโฟนรุ่นล่าสุดเพื่อนำกำไรมาชดเชยกลับยิ่งส่งผลให้ยอดจำหน่ายไอโฟนลดต่ำลงไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ข้อมูลล่าสุดจากการเปิดเผยกำไรไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ของแอปเปิ้ล พบว่า แอปเปิ้ลมีกำไรไตรมาสที่มาจากไอโฟนลดลงถึงร้อยละ 15 ทำให้กำไรของแอปเปิ้ลลดลงมาเหลือเพียง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.2 แสนล้านบาท
การกอบกู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้จะถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดของนายทิม คุก หลังรับตำแหน่งซีอีโอต่อจากนายสตีฟ จอบส์ ผู้ล่วงลับ
Customers visit an Apple store in Beijing, China, Thursday, Jan. 3, 2019. (AP Photo/Ng Han Guan)
สาเหตุเนื่องมาจากแม้แอปเปิ้ลอาจกลับมาขายไอโฟนได้มากขึ้น แต่แอปเปิ้ลต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าแอปเปิ้ลจะยังเติบโตต่อไปได้ เพราะในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมานั้นมูลค่าของแอปเปิ้ลหายไปถึงหนึ่งในสาม เท่ากับเงิน 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.2 ล้านล้านบาท ที่หายไปจากกระเป๋าของผู้ร่วมถือหุ้น
ก่อนหน้านี้ ซีอีโอแอปเปิ้ลยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับบรรดาผู้ร่วมถือหุ้นของบริษัทเมื่อต้นเดือนม.ค. ว่าแอปเปิ้ลมีกำไรต่ำกว่าที่เป้าที่คาดการณ์ไว้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่แอปเปิ้ลเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากผลิตภัณฑ์ไอพ็อด ที่เพิ่งวางจำหน่าย
ทิม คุก / PA
แดเนียล ไอฟส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท เว็ดบุช ซีเคียวรีตีส์ มองว่า ถือเป็นช่วงตัดสินของนายคุก หลังซีอีโอแอปเปิ้ลเสียเครดิตไปจำนวนหนึ่งแล้วในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท นายคุกจะต้องเข้ามาประคับประคองแอปเปิ้ลไว้ให้ได้กลางสถานการณ์ใหม่ที่แอปเปิ้ลกำลังเผชิญ
ด้านรายงานกำไรไตรมาสของแอปเปิ้ล เปิดเผยให้เห็นว่า แม้กำไรไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ของแอปเปิ้ลจะลดลง แต่ก็ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อย โดยผลลัพธ์นี้ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทปรับตัวลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปี 2560 อยู่ที่ 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.6 ล้านล้านบาท
มีสาเหตุหลักมาจากยอดจำหน่ายไอโฟนที่ลดลง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.8 แสนล้านบาท เหลือ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.8 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ที่ต่ำกว่าเป้ายังส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2562 ด้วย โดยแอปเปิ้ลคาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว 5.5 ถึง 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.7-1.8 ล้านล้านบาท
FILE – This Oct. 22, 2018, file photo shows the iPhone XS, from left, iPhone XR, and the iPhone XS Max in New York. (AP Photo/Richard Drew, File)
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายคุกยังเคยประกาศเมื่อเดือนพ.ย. 2561 ว่าแอปเปิ้ลจะยุติการเปิดเผยยอดจำหน่ายไอโฟนของบริษัท โดยจะเปิดเผยในรูปแบบของผลประกอบการและกำไรสุทธิแทน
สร้างความประหลาดใจ และข้อสังเกตจากนักวิจารณ์ว่า แอปเปิ้ลอาจพยายามปกปิดยอดจำหน่ายไอโฟน เนื่องจากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ กระทั่งพบว่ายอดขายตกจริงตามคาด
ส่วนสาเหตุหลักนั้น นายคุก กล่าวโทษว่าสืบเนื่องจากอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ชาติผู้มีกำลังซื้อสูงสุดอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ
นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นจากค่ายสมาร์ตโฟนจีนอย่างหัวเว่ยและเสี่ยวหมี่ เพราะมีฟีเจอร์เหมือนกันแต่ราคาต่ำกว่า
อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อแอปเปิ้ลนั้นมาจากสงครามการค้าระหว่างรัฐบาลสหรัฐกับจีน ที่ส่งผลให้ชาวจีนบางส่วนบอยคอตสินค้าแอปเปิ้ล แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ไอโฟนขายได้น้อยลงนั้นมาจากอีกหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยด้านราคา
……………..
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
ไอโฟนกระอัก ตลาดจีนเล่นงาน แอปเปิ้ลร่อนจ.ม.แจ้งผู้ถือหุ้นรายได้หด
