เด็กชายสังเวย “ลูกชิ้น” หลังเดินกินแล้วสำลัก “ติดคอ” ทำสมองขาดออกซิเจน-ดับสลด

เด็กชายสังเวย “ลูกชิ้น” – วันที่ 25 ก.พ. สเตรตส์ไทมส์ รายงานกรณีอุทาหรณ์ใน ฮ่องกง เมื่อนักเรียนชายชั้นประถมศึกษาวัย 12 ปี กิน ลูกชิ้น แล้วเกิด ติดคอ จนหายใจไม่ออก แม้จะมีคนช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันการ เด็กชายมีอาการสมองถูกทำลาย และเสียชีวิตเพียง 3 วันหลังเข้ารับการรักษา

เดอะสแตนดาร์ดระบุว่า เมื่อเวลาราว 17.00 น. ของวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา เด็กชายคนดังกล่าวซึ่งทราบชื่อว่า ด.ช.เชา กำลังเดินจากโรงเรียนใน เขตหวังต้าเซียน เพื่อกลับบ้านใน ย่านจุ๊กหยวนเซาท์เอสเตท ตามปกติ

He bought a siew mai, fishballs and beef balls for HK$24 (S$4). But as he was walking home to the Chuk Yuen South Estate, he took a bite on a beef ball and choked on it. /thestandard/

ระหว่างทางแวะซื้อ ลูกชิ้นปลาและเนื้อ ราคา 24 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 95 บาท แต่หลังจากกัดลูกชิ้นเข้าปากด.ช.เชากลับสำลักลูกชิ้นจนติดคอ ส่งผลให้หายใจไม่ออก

ขณะนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหญิงเห็นท่าทางผิดสังเกตของเด็กชายจึงเข้าไปตรวจสอบ และรีบโทรศัพท์แจ้งหน่วยฉุกเฉินซึ่งส่งรถพยาบาลมารับตัวเด็กชายไปทำการรักษาที่ศูนย์แพทย์คาริทตัส แต่อาการไม่ดีขึ้นเลยส่งตัวไปโรงพยาบาลพริ้นเซสมาร์กาเร็ต

The boy was clutching his neck and gasping for air when he was spotted by a female security guard, and taken to Caritas Medical Centre. He was later transferred to Princess Margaret Hospital (above), where he died on Sunday. PHOTO: GOOGLE MAPS

กระทั่งช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ. เด็กชายเสียชีวิตลง เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนเป็นเวลานานจนถูกทำลาย และทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว

ด้านนายแอคเซิล ซุย ประธานวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินฮ่องกง ยกกรณีของด.ช.เชาเป็นตัวอย่าง และย้ำว่าไม่ควรกินอาการขณะเดินหรือพูด เพราะอาหารอาจติดและปิดหลอดลมจนหายใจไม่ออก ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนส.ค.2561 มีเหตุเด็กชายชาวมาเลเซีย วัย 7 ขวบ เสียชีวิตเพราะเมล็ดเงาะติดคอ และเดือนมี.ค.ปีเดียวกัน เด็กหญิงวัย 2 ขวบในฮ่องกง เสียชีวิตหลังสำลักเมล็ดองุ่น