เอ๊ะยังไง “ฮานอยซัมมิต” ตัดจบเร็วกว่ากำหนด ทำเนียบขาวชี้ยังไม่เคาะดีล (คลิป)
เอ๊ะยังไง “ฮานอยซัมมิต” – วันที่ 28 ก.พ. เอเอฟพี และ บีบีซี รายงานการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ครั้งที่ 2 ระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา และ นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หลังพบปะและหารืออย่างไม่เป็นทางการในช่วงรับประทานอาหารมื้อค่ำเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่า
ด้านนายทรัมป์กล่าวในเวลาต่อมาว่า “บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องเดินออกมา และนี่คือหนึ่งในช่วงเวลานั้น” ภายหลังไม่มีการตกลงใดๆ กับนายคิมซึ่งเรียกร้องขอให้สหรัฐถอนมาตรการคว่ำบาตร ถึงอย่างนั้นนายทรัมป์ระบุว่าเกาหลีเหนือจะไม่ทำการทดสอบนิวเคลียร์อีกต่อไป และย้ำว่าตนกับนายคิมมีความสัมพันธ์ที่ดี “เราต่างก็ชอบอีกฝ่าย.. เรามีความรู้สึกที่กดีต่อกัน และผมหวังว่ามันจะยังมีต่อไป ผมคิดว่าผมจะยังมีอยู่” นายทรัมป์กล่าว
US President Donald Trump and North Korea’s leader Kim Jong Un hold a bilateral meeting on February 28, 2019. (AFP)
สำหรับที่ประชุมประกอบด้วยสองผู้นำและคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึง นายไมก์ พอมเพโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ พลเอกคิม ยองชอล รองประธานคณะกรรมการกลางของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ผู้เป็นมือขวาของนายคิม และ น.ส.คิม โยจอง น้องสาวของนายคิม ผู้รั้งตำแหน่งสมาชิกกรมการเมือง หรือโปลิตบูโร
US President Donald Trump walks with North Korea’s leader Kim Jong Un during a break at the Sofitel Legend Metropole hotel. (AFP)
นายคิมกล่าวระหว่างพูดคุยกับสื่อว่า “มีคนสงสัยในการประชุมของเรา และสำหรับพวกเขานั้นผมคิดว่า การมองดูพวกเรามีช่วงเวลาดีๆ ก็เหมือนกับฉากจากภาพยนตร์แฟนตาซี” นายคิมยังย้ำว่าหากตนไม่ตั้งใจที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์จริงๆ ก็คงไม่มาร่วมการหารือ และว่ากำลังเจรจาเพื่อให้ผลักดันกระบวนการดังกล่าว ขณะที่นายทรัมป์เสริมอย่างชื่นชมว่านี่อาจเป็นคำตอบที่ดีที่จะได้ยิน และว่าไม่รีบร้อนที่จะต้องบรรลุข้อตกลงให้ได้ทันที
Pedestrians walk in front of a large video screen in Tokyo displaying a news program on the summit in Hanoi between Kim Jong Un and US President Donald Trump. (AFP)
นอกจากนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถ่ามว่านายคิมพร้อมจะเปิดประเทศให้สหรัฐเข้าไปตั้งสำนักงานประสานงานในกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือหรือไม่ นายคิมกล่าวว่ายินดีอย่างยิ่ง แม้สำนักงานประสานงานจะมีระดับความร่วมมือแและการประสานงานระหว่างประเทศน้อยกว่าสถานทูต แต่ถือเป็นก้าวแรกในการสร้างความสัมพันธ์ของสหรัฐและเกาหลีเหนือในทิศทางบวก หลังอยู่ในสถานะคู่อริมานานหลายสิบปี
