ทรัมป์ขู่ปิดพรมแดนเม็กซิโก ผู้อพยพทะลักเข้าสหรัฐไม่หยุดยั้ง

ทรัมป์ขู่ปิดพรมแดนเม็กซิโก – เมื่อวันที่ 30 มี.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประกาศขู่ว่าอาจมีคำสั่งปิดพรมแดนประเทศเม็กซิโกในสัปดาห์นี้ ภายหลังนายทรัมป์อ้างว่ามีแนวโน้มผู้อพยพเข้ามาในสหรัฐมากขึ้นต่อเนื่อง

REUTERS

ผู้นำสหรัฐขู่จะดำเนินการหากทางการเม็กซิโกไม่ดำเนินการสกัดกั้นบรรดาผู้อพยพอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ สร้างความกังวลให้บรรดานักวิเคราะห์ที่ต่างมองว่า หากประธานาธิบดีทรัมป์สั่งปิดพรมแดนจริงจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนจำนวนมาก และทำให้การค้าขายได้รับผบกระทบมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

REUTERS

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “มีความเป็นไปได้สูงมากที่ผมจะสั่งปิดพรมแดนเม็กซิโกในสัปดาห์นี้ ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร” และว่า “ความจริงแล้ว มันเป็นเรื่องง่ายมากที่เม็กซิโกจะหยุดคนของเขาเอง แต่กลับเลือกที่จะไม่ทำอะไร” ต่อมาผู้นำสหรัฐยังทวีตอีกด้วยว่า “สหรัฐเสียเงินไปกับเม็กซิโกมาก ยิ่งรวมปัญหาเรื่องยาเสพติดเข้าไปอีก ปิดพรมแดนเสียเลยท่าจะดี!”

REUTERS

ข้อมูลจากกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐ หรือดีเอชเอส ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้อพยพได้มากถึง 1 แสนคน เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพจากประเทศเอลซัลวาดอร์ ฮอนดูรัส และกัวเตมาลา ในจำนวนนี้ มีเด็กที่ไม่มีผู้ปกครองเดินทางมาด้วยกว่า 1,000 คน

AFP

นางคริสเตนท์ นีลเซน รัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิ กล่าวเตือนว่า หน่วยงานสหรัฐกำลังประสบกับภาวะล้มเหลวทั้งระบบ เพราะต้องให้การดูแลครอบครัวผู้อพยพกว่า 6,600 ครอบครัว ที่อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากส่วนใหญ่เดินทางลักลอบเข้ามาในสหรัฐ แต่อาศัยกฎหมายที่ร้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐได้ทันทีเมื่ออยู่ดินแดนของสหรัฐ

REUTERS

ด้านประธานาธิบดีโลเปซ โอบราโดร์ ผู้นำเม็กซิโก ระบุว่า ปัญหาผู้อพยพหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการควบคุมของทางการเม็กซิโก แต่ปัญหามาจากผู้คนที่มาจากชาติอื่นๆ ในทวีปอเมริกากลาง โดยย้ำว่า “คนเม็กซิกันเลิกอพยพไปหางานทำในสหรัฐนานแล้ว ที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นพี่น้องจากชาติอื่นในอเมริกากลาง”

AFP

ขณะที่นายมาร์ซีโล เอ็บราร์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโก กล่าวตอบโต้ผู้นำสหรัฐในทวิตเตอร์ ว่าประเทศเม็กซิโกเคยเป็นชาติเพื่อนบ้านที่ยอดเยี่ยมของสหรัฐ และจะไม่เคลื่อนไหวดำเนินการใดๆ ต่อคำข่มขู่”

อ่านต่อ:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน