โค่นผู้นำซูดาน สิ้นอำนาจ 30 ปี กองทัพลุยเอง เคลื่อนรถถังเข้ากรุง
โค่นผู้นำซูดาน – วันที่ 11 เม.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กองทัพซูดานโค่นอำนาจประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ซึ่งรั้งเก้าอี้ผู้นำมายาวนานกว่า 30 ปี ขณะที่นักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้กองทัพรีบถ่ายโอนอำนาจสู่พลเรือนโดยเร็วที่สุด แต่ฝ่ายกองทัพแถลงในเบื้องต้นว่าจะใช้เวลาถ่ายโอนอำนาจ 2 ปี
ก่อนหน้านี้ ประชาชนออกมาประท้วงตามท้องถนนเรียกร้องให้ลาออกนาน 4 เดือน แต่กลับถูกปราบปราม กระทั่งล่าสุด หลังจากผู้ประท้วงปักหลักนานต่อเนื่อง 6 วัน 5 คืน ทหารจึงเคลื่อนยานเกราะบรรทุกทหารประจำจุดศูนย์กลางเมืองหลวง ออกมาปกป้องประชาชน
ช่วงเวลาดังกล่าว มีผู้ประท้วงถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเปิดฉากยิงใกล้อาคารแพทย์อัลบาชีร์ จนมี 2-3 คนบาดเจ็บ แต่ทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
Protesters rally near the military headquarters, Tuesday, April 9, 2019 (AP Photo)
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เห็นทหารเคลื่อนกำลังควบคุมตามท้องถนน สี่แยก สะพานในประเทศ ต่อมา ทหารเข้าบุกสถานีโทรทัศน์ของรัฐ ช่วงตีห้า พร้อมขึ้นคำประกาศที่หน้าจอสถานีโทรทัศน์ว่าให้ประชาชนรอฟังแถลงการณ์
จากนั้นผู้ประท้วงหลายพันคนหลั่งไหลไปสำนักบัญชาการทหารในกรุงคาร์ทูม ส่วนตามสำนักงานของกลุ่มที่ภักดีต่อพรรครัฐบาลถูกทหารยึดไว้ทั้งหมด กระทั่งแถลงการณ์ประกาศออกมาว่า นายอัล-บาชีร์ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ทำให้ประชาชนฉลองกันอย่างครึกครื้น
Advertisement
Sudanese anti-regime demonstrators stand on an army armoured military vehicle on April 11, 2019 as they cheer and flash the sign of victory. (Photo by – / AFP)
แต่กองทัพแถลงเตือนผู้ประท้วงอย่าได้บุกปล้นหรือทำลายสถานที่ราชการและห้างร้านต่างๆ ส่วนสำนักงานหน่วยข่าวกรองออกประกาศตามมาว่า ได้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองออกมาทั้งหมด
การประท้วงของประชาชนขับไล่นายบาชีร์ เริ่มขึ้นเมื่อเดือนธ.ค.2561 หลายคนไม่พอใจสภาพเศรษฐกิจ ราคาขนมปังที่เพิ่มสูงขึ้นสามเท่าตัว มีผู้ประท้วงรายหนึ่งกล่าวว่า “เราพอแล้วกับระบบนี้ 30 ปีแห่งการกดขี่ คอร์รัปชั่น ละเมิดสิทธิ มันต้องพอได้แล้ว”
Sudanese celebrate after officials said the military had forced longtime autocratic President Omar al-Bashir to step down after 30 years in power in Khartoum, Sudan, Thursday, April 11, 2019. (AP Photo)
สำหรับประธานาธิบดีอัล-บาชีร์ขึ้นครองอำนาจหลังการรัฐประหารในปี 2532 และใช้อำนาจปกครองอย่างแข็งกร้าว โดยเฉพาะกับภูมิภาคดาร์ฟูร์ ภาคตะวันตก ที่มีการฆ่าล้างชนกลุ่มที่ไม่ใช่อาหรับอย่างกว้างขวาง จนนายบาชีร์ถูกกล่าวหาจากศาลอาญาระหว่างประเทศ ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
