อัพเดตแสนยานุภาพทัพสหรัฐ เคลื่อนเข้าอ่าวเปอร์เซีย ไล่บี้อิหร่าน
อัพเดตแสนยานุภาพทัพสหรัฐ – เมื่อ 12 พ.ค. เอพี รายงานการเคลื่อนทัพของกองทัพสหรัฐอเมริกา เข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย เพื่อเผชิญหน้ากับอิหร่าน ด้วยข้ออ้างของรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าได้รับข่าวกรองว่าอิหร่านเล็งโจมตีสหรัฐ แม้ว่าจะยังไม่ระบุว่าเป็นภัยคุกคามใด แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่สหรัฐส่งไปเป็นชนิดจัดหนักจัดเต็ม
เริ่มจากเรือบรรทุกเครื่องบินรบ ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ชั้นนิมิตซ์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ บรรทุกเจ้าหน้าที่และกลาสีได้สูงเเกิน 6,000 นาย ชั้นดาดฟ้าเป็นที่จอดของเครื่องบินรบเอฟ-18 เฮลิคอปเตอร์ เอ็มเอช-60 ซีฮอว์ก และเครื่องบินชนิดอื่นๆ
ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ไม่ได้ล่องมาลำเดียว ต้องมีเรือคุ้มกันตามประกบมาด้วย เป็นเรือพิฆาต 3 ลำ ได้แก่ คือ ยูเอสเอส เบนบริจด์ ยูเอสเอส เมสัน และยูเอสเอส ซิตเซ พร้อมด้วยเรือยูเอสยูเอส เลย์ทีสำหรับยิงขีปนาวุธนำวิถี และเรือฟริเกต อีเอสพีเอส เมนเดซ นูเนซ ส่วนเรือลินคอล์นเอง มีอาวุธป้องกันตัวเอง ทั้งปืนกลและขีปนาวุธ
นอกจากนี้ กองทัพสหรัฐยังเคลื่อนเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 ระบบยิงขีปนาวุธ แพตทริออต อาวุธคู่สงครามอ่าวเปอร์เซียที่กองทัพสหรัฐเคยใช้รบกับอิรักมาตั้งแต่ปี 2534 และเรือขนส่งเสบียงแบบสะเทินน้ำสะเทินบก
ด้าน บีบีซี รายงานความเคลื่อนไหวจากฝั่งอิหร่าน ว่า ประธานาธิบดี ฮัสซัน เราฮานี ซึ่งถูกกดดันทางการเมืองจากกลุ่มสายเคร่ง กล่าวเรียกร้องให้คนในชาติรวมใจเป็นหนึ่ง เพราะสถานการณ์ขณะนี้ อิหร่านถูกกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในที่นี้รวมถึงการที่สหรัฐหวนใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน ทำให้สภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่ประเทศทำสงคราม อิรัก-อิหร่าน เมื่อปี 2523-2531
“ช่วงเรามีสงคราม เราไม่ได้มีปัญหาธนาคาร ขายน้ำมัน หรือส่งออกนำเข้า และการแซงก์ชั่นก็จำกัดอยู่เพียงการขายอาวุธ แต่แรงกดดันครั้งนี้จากศัตรู คือสงครามที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของเรา แต่ผมไม่สิ้นหวัง ผมยังมีความหวังยิ่งใหญ่สำหรับอนาคต และเชื่อว่าเราจะผ่านสถานการณ์ยากลำบากนี้ไปได้ ถ้าเราสามัคคีกัน” นายเราฮานี กล่าว
………..
อ่านข่าว : สหรัฐจัดหนักขู่ “อิหร่าน” อีกระลอก ส่งระบบยิงมิสไซล์ “แพตทริออต” พร้อมเรือรบไปตะวันออกกลาง