จลาจลคุกเวเนฯ ตายเกลื่อนเรือนจำ 29 ศพ จับญาติเป็นตัวประกัน

จลาจลคุกเวเนฯ – เมื่อวันที่ 25 พ.ค. เอพี รายงานว่า เวเนซุเอลาเกิดเหตุร้ายแรงอีก ไม่เว้นในเรือนจำ เมื่อเกิดจลาจลภายในเรือนจำของสำนักงานตำรวจเมืองอคาริกัว รัฐโปร์ตูเกซา ทางภาคตะวันตกของประเทศ พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 29 ราย เป็นนักโทษทั้งหมด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 19 นาย

เหตุเกิดขึ้นหลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจ หรือเอฟเออีเอส เข้าระงับเหตุจลาจลร้ายแรงภายในสำนักงานตำรวจ นักโทษใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่เจ้าหน้าที่ทั้งยังขว้างปาระเบิดมือใส่อีกทำให้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บจำนวนมาก

นายคาร์ลอส นีเยโต ผู้อำนวยการกลุ่มเอ็นจีโอ อูนา เวนตานา อลา ลิเบอแท็ด เล่าว่า เหตุเกิดขึ้นหลังมีกลุ่มผู้ที่เดินทางเยี่ยมผู้ต้องหาถูกกลุ่มนักโทษจับเป็นตัวประกัน ส่งผลให้ตำรวจต้องระดมหน่วยเอฟเออีเอส เข้าชิงตัวประกัน

รายงานระบุว่า ผู้นำกลุ่มนักโทษที่ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังว่า นายวิลเฟรโด รามอส ถูกหน่วยพิเศษของตำรวจวิสามัญ ขณะที่ตำรวจส่วนใหญ่ที่บาดเจ็บนั้นเนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิด และแรงระเบิด ขณะที่สำนักงานบริหารเรือนจำปฏิเสธไม่แสดงความคิดเห็น เนื่องจากห้องขังในสน.ตำรวจ ไม่ได้อยู่ภายใต้การบริหารของทางสำนักงาน

คลิปเหตุการณ์ที่ได้รับการเผยแพร่ทางโลกออนไลน์เผยให้เห็นนาทีที่นักโทษซึ่งคาดว่าเป็นนายรามอสสวมหมวกปิดบังใบหน้า โดยในมือปืนพกและระเบิดมือ กล่าววาจาข่มขู่บรรดาญาติของผู้ต้องขังที่ต่างพยายามร้องขอชีวิต

จลาจลคุกเวเนฯ

นายรามอสจับตัวประกัน

“ชีวิตของนักโทษและพวกญาติของมันทั้งหมดเป็นตัวประกัน” นายรามอสกล่าว พร้อมขู่เจ้าหน้าที่ที่ด้านนอกให้ออกห่างจากตัวอาคารเพราะตนพร้อมจะตาย

นายรามอสยังกล่าวประณามการละเมิดสิทธิของตำรวจ เรียกร้องขออาหาร และให้ย้ายตนไปยังห้องขังของเรือนจำอื่น ส่วนชะตากรรมของตัวประกันทั้งหมดนั้นไม่ทราบแน่ชัด

ทั้งนี้ เวเนซุเอลาเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจต่อเนื่องยาวนาน ก่อให้เกิดปัญหามากมาย รวมถึงความแออัดในห้องขังตำรวจ สำหรับใช้ควบคุมตัวบุคคลทั่วไปได้สูงสุด 48 ชั่วโมงนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งในเวเนซุเอลา เนื่องจากมีไม่เพียงพอ ต้องใช้ควบคุมผู้ต้องขังกว่า 55,000 คน แต่มีเพียง 500 แห่ง รองรับได้ 8,000 คน สำหรับห้องขังตำรวจที่เมืองอคาริกัวซึ่งเกิดเรื่องนั้นรองรับได้ 60 คน แต่มีผู้ต้องขังอยู่กว่า 500 คน

นับตั้งแต่ปี 2560 มีเหตุจลาจลในคุกเวเนซุเอลาแห่งต่างๆ จนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 130 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน