เหตุใดซีอีโอและพนักงานหัวเว่ยจึงอ่านหนังสือ “กับดักอเมริกัน”

กับดักอเมริกัน ทำไมซีอีโอและพนักงานหัวเว่ยพากันอ่านหนังสือเล่มนี้

กับดักอเมริกัน – เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานเจาะลึกหนังสือซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวถึง เนื่องจากบนโต๊ะทำงานของ เหริน เจิ้งเฟย วัย 74 ปี ซีอีโอหัวเว่ย เทคโนโลยี มีหนังสือเล่มนี้ที่ชื่อ Le Piège Américain หรือ American Trap หรือ “กับดักอเมริกัน” วางอยู่

หนังสือเล่มนี้เขียนโดย เฟรดเดอริก เปียรุชชี อดีตผู้บริหารบริษัทรถไฟ อัลส์ตอม ของฝรั่งเศส ผู้ต่อสู้คดีกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา และมี แมตธิว อารอน นักข่าวเป็นผู้แต่งหนังสือร่วม

นอกจากห้องทำงานผู้บริหารแล้ว พนักงานหัวเว่ยก็อ่านหนังสือเล่มนี้เช่นกัน เพราะมีวางอยู่ตามที่ต่างๆ ในบริษัท ทั้งห้องสมุดและร้านกาแฟ

หนังสือเล่มหนาวางขายในฝรั่งเศสเมื่อเดือน ม.ค. ปีนี้ (ค.ศ.2019) และติดอันดับหนังสือขายดีประเภทการจัดการธุรกิจในเว็บไซต์ JD.com และขึ้นแท่นเป็นหนังสือขายดีที่สุดในเว็บ Dangdang.com ทั้ง 2 เว็บไซต์นี้เป็นช่องทางอี–คอมเมิร์ชที่ได้รับความนิยมสูงสุดของชาวจีน และเริ่มวางขายในฮ่องกง เมื่อวันศุกร์ที่ 31 พ.ค.

สาเหตุสำคัญที่ทำให้นักอ่านชาวจีนสนใจหนังสือเล่มนี้เป็นเพราะสะท้อนจินตนาการที่คล้ายกับเหตุการณ์เมิ่ง หว่านโจว ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน รองประธานและบุตรสาวของผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย ถูกจับกุมที่เมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดาเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2561 (ค.ศ.2018) ในข้อหาลักลอบทำธุรกิจกับอิหร่านซึ่งถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร

ส่วน เปียนุชชี ถูกกุมขณะลงจากเครื่องบินสายการบินคาเธย์ แปซิฟิค ที่นิวยอร์ก ปี 2556 ถูกตั้งข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ชาวอินโดนีเซียเพื่อให้ชนะการประกวดราคาโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ ซึ่งฺฺฺผิดกฎหมายต่อต้านคอร์รัปชันของสหรัฐ ที่เปิดโอกาสให้สหรัฐใช้กฎหมายบังคับคดีในต่างประเทศได้ หากมีการทำธุรกรรมโดยใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ หรือส่งอี–เมล์ผ่านเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐ

เปียรุชชีรับโทษถูกคุมขังเป็นเวลา 2 ปี ที่เรือนจำรัฐเพนซิลวาเนียและโรด ไอส์แลนด์ ก่อนพ้นโทษโดยทำทัณฑ์บนไว้ 3 ปี เขาโต้แย้งว่าการสอบสวนคดีต่อต้านคอร์รัปชันเป็นช่องทางให้ทางการสหรัฐช่วยเหลือบริษัทเจนเนอรัล อีเล็กทริก เข้าซื้อกิจการของอัลส์ตอม

ปัจจุบัน เปียรุชชี เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน เขากล่าวว่ายุโรปเคยเป็นเป้าหมายใหญ่ที่สหรัฐ ใช้กฎหมายนอกอาณาเขตเล่นงาน และต่อมา ก็เป็นคิวของจีน

เห็นได้จากกรณีบริษัทหัวเว่ยและแซดทีอี ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ หัวเว่ยถูกห้ามทำธุรกิจกับบริษัทอเมริกัน ส่วนแซดทีีอีถูกสหรัฐห้ามส่งออกเพราะทำผิดสัญญาการก่อตั้ง

เปียรุชชีมองว่า การที่เมิ่ง หว่านโจว ถูกจับกุมเพราะสหรัฐใช้กลวิธีจัดการกับคนใกล้ชิดผู้นำบริษัทเพื่อกดดันให้ยอมร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ซึ่งเป็นกลวิธีเดียวกันกับที่สหรัฐ ใช้ระบบตุลาการทำให้คู่แข่งอ่อนแอหรือเพื่อให้บริษัทสัญชาติอเมริกันได้ประโยชน์

เขาแนะว่าจีนและยุโรปควรผนึกกำลังกันต่่อต้านสหรัฐ เพื่อแสดงให้เห็นความแข็งแกร่ง เพราะหากเผยให้เห็นความอ่อนแอ สหรัฐจะทำแบบเดียวกันและหากจำเป็น จีนและยุโรปอาจจะต้องเล่นงานบริษัทอเมริกันบ้าง

เปียรุชชีศึกษาคดีต่างๆ ภายใต้กฎหมายต่อต้านคอร์รัปชันของสหรัฐ และพบว่าเป้าหมายของสหรัฐคือ อุตสาหกรรมที่เป็นกลยุทธ์ รวมทั้ง การสื่อสารโทรคมนาคม ยา น้ำมันและก๊าซในต่างประเทศ ดังนั้นธุรกิจต่างชาติที่ไม่อยากติดกับดักอเมริกัน จะต้องตั้งเป็นองค์กรและต้องได้รับไฟเขียวทางการเมืองจากรัฐบาลประเทศนั้นๆ ด้วย

“สงครามการค้า ลดความร้อนแรงลงได้อย่างที่หวัง แต่ผมไม่มองในแง่ดีนักนะ เพราะจีนไม่ต้องประนีประนอมกับประเทศอื่นๆ แต่ยุโรปมีความซับซ้อนกว่าเพราะแต่ละประเทศก็มีประเด็นของตัวเอง” เปียรุชชีกล่าว และว่า เขาเชื่อว่า เหริน เจิ้งเฟย ซีอีโอของหัวเว่ย กำลังตกที่นั่งลำบากมากที่ถูกสหรัฐกดดัน

เหริน เจิ้งเฟย / CGTN

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอเหรินจะให้สัมภาษณ์สื่อด้วยความเชื่อมั่นว่า หัวเว่ย บริษัทที่ทำรายได้ทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2561 จะผ่านพ้นมาตรการแซงชั่นของสหรัฐไปได้ และเอ่ยถึง เมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวคนโต และซีเอฟโอ หัวเว่ย ว่ากำลังวุ่นอยู่ และอาจจบปริญญาเอกระหว่างถูกคุมขัง

……………

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ซีอีโอ หัวเว่ย อองโรงตอบโต้ สหรัฐ ประเมินเราต่ำเกินไป!