มาเลเซียอายัด7.5พันล้าน บริษัทจีนยังสร้างท่อส่งน้ำมันไม่เสร็จ
มาเลเซียอายัด7.5พันล้าน – วันที่ 15 ก.ค. เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ มูฮัมหมัด ผู้นำมาเลเซีย แถลงข่าวยืนยันว่า รัฐบาลมาเลเซียอายัดเงิน 1,000 ล้านริงกิต หรือราว 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,500 ล้านบาท )จากรัฐวิสาหกิจของจีน ที่มีโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน 2 ท่อ มูลค่ามากกว่า 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียระบุว่า รัฐบาลมีสิทธิเอาเงินคืน เนื่องจากโครงการก่อสร้างถูกยกเลิกไปแล้ว “ผมไม่เห็นเหตุผลที่จีนจะไม่พอใจต่อกรณีนี้ เราไม่ได้เอาเงินคืนจากโครงการที่จีนลงมือทำเสร็จแล้ว แต่เป็นโครงการที่จีนยังลงมือทำไม่เสร็จ ก่อนระงับโครงการดังกล่าว มีการจ่ายเงินค่าก่อสร้างท่อส่งน้ำมันร้อยละ 80 ทั้งที่การก่อสร้างแล้วเสร็จแค่ร้อยละ 13” นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าว
หนังสือพิมพ์สเตรตส์ไทม์ของสิงคโปร์รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า ทางการมาเลเซียยอายัดเงิน 1,000 ล้านริงกิต จากบัญชีธนาคาร HSBC ที่เป็นของ ไชน่า ปิโตรเลียม ไปป์ไลน์ เอนจีเนียริง (CPP) บรรษัทปิโตรเลียมแห่งชาติของจีนที่รัฐเป็นเจ้าของ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมณฑลเหอเป่ย์ และโอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคารที่ควบคุมโดยกระทรวงการคลังของมาเลเซีย
สเตรตส์ไทม์อ้างนักกฎหมายและนายธนาคารที่มีประสบการณ์กับสถานการณ์เช่นนี้ ระบุว่า ไม่มีความชัดเจนว่า ทำไมเงินจำนวนดังกล่าวถูกอายัด และรัฐบาลมาเลเซียใช้อำนาจใดในการอายัดได้ ขณะที่ตัวแทนของ CPP ระบุว่า บริษัทงงงวยกับการโอนเงินจากรัฐบาลมาเลเซียเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่แจ้งให้ CPP ทราบ
“CPP จะปกป้องสิทธิของตัวเอง และหวังว่าคู่เจรจามาเลเซียจะสามารถแก้ปัญหาผ่านวิธีการเป็นมิตรกับเรา” ตัวแทนของ CPP กล่าว
ขณะเดียวกัน นายลิม กวน เอง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของมาเลเซีย ออกตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลมาเลเซียในการอายัดเงินฝ่ายเดียว “หากมีคำสั่งอายัดเงิน ควรให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายดำเนินการ”
ทั้งนี้ CPP เมื่อปี 2559 ชนะการประมูลสัญญาจากรัฐบาลมาเลเซียโดยนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า ในการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน 600 ก.ม. ตามแนวชายฝั่งตะวันตกของแหลมมลายู และท่อส่งก๊าซ 662 ก.ม. ในซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียว
แต่ต่อมาในเดือนก.ย.61 นายมหาเธร์ ซึ่งเพียงรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยล่าสุดเพียง 4 เดือน ออกคำสั่งระงับโครงการทั้งสอง หลังโค่นนายนาจิบในศึกการเลือกตั้งทั่วไปในปีเดียวกัน ท่ามกลางคำถามที่ว่ามีความเชื่อมโยงกับการฟอกเงินหรือไม่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซียอ้างในเวลานั้นถึงเหตุผลค่าใช้จ่ายสูงและเงินกองทุนสำหรับการยกเลิกว่างเปล่า ขณะที่ CPP ยอมรับการตัดสินใจของรัฐบาลนายมหาเธร์