เมื่อวันที่ 29 มี.ค. เว็บไซต์เดลี่เมล์รายงานว่า สัตว์กว่า 50 ชีวิตทยอยอดตายแล้วในสวนสัตว์คาริคัวโอ กรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลา ขณะที่ภาพของช้างชื่อ รูเปอร์ตา อายุ 46 ปี ในสวนสัตว์ดังกล่าวแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ สะท้อนถึงสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ไม่มีปัญญาหาอาหารมาเลี้ยง เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้สัตว์ขาดแคลนอาหารเรื้อรัง
สัตว์หลายตัวในสวนสัตว์คาริคัวโอ อาทิ หมูเวียดนาม สมเสร็จ กระต่าย นก ไม่ได้รับอาหารมา 2 สัปดาห์ ในช่วงที่ประเทศเวเนซุเอลาประสบภาวะเสรษฐกิจถดถอยนำไปสู่การขาดแคลนอาหาร ขณะที่สวนสัตว์ในเมืองอื่นๆอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายกว่า หมูเวียดนาม สมเสร็จ กระต่าย นก ต้องขอร้องให้ช่วยบริจาคผลไม้ ผัก เนื้อจากร้านค้าท้องถิ่น
นางมาร์เลนี ซิฟอนเตส อายุ 52 ผู้นำสหภาพลูกจ้างในสวนสัตว์ กล่าวว่า เรื่องราวของสัตว์ในสวนสัตว์คาริคัวโอเปรียบได้กับความทุกข์ทรมานของเวเนซุเอลา สิงโตและเสือในสวนสัตว์ดังกล่าวถูกเลี้ยงด้วยมะม่วง ฟักทองแทนเนื้อสัตว์ ขณะที่ช้างกำลังกินผลไม้เมืองร้อนแทนหญ้าฟาง
ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐปฏิเสธการตายของสัตว์ดังกล่าวว่าเกิดจากขาดอาหาร แต่ทีมอัยการได้เปิดสอบสวนการตายของสัตว์ป่าหลายสายพันธุ์ที่สวนสัตว์ดังกล่าวแล้ว
สำหรับสถานการณ์ในสวนสัตว์ลา ลากุนา รัฐตาจิรา ทางตะวันตกของประเทศ คณะบริหารสวนสัตว์กล่าวว่า ต้องให้กลุ่มธุรกิจท้องถิ่นช่วยบริจาคอาหาร พวกผลไม้ เนื้อสัตว์ ให้สัตว์ที่หิวโซกิน
“เราทำทุกอย่างที่มนุษย์ทำได้เพื่อรับประกันว่าสวนสัตว์ยังไปต่อได้” นักบัญชีรายหนึ่งของเขตเทศบาลท้องถิ่นที่รับผิดชอบด้านกองทุนของสวนสัตว์กล่าว
ด้านพนักงานกำลังวางแผนจะย้ายสัตว์ อาทิ หมีที่มีแววว่าไม่ไหวแล้ว ไปยังสวนสัตว์อีกแห่ง ทั้งนี้หมี 6 ตัวของสวนสัตว์ได้กินอาหารแค่ครึ่งเดียวของอาหารที่ต้องการจำนวน 16 กิโลกรัมต่อวัน
ทั้งนี้ นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา กล่าวโทษที่เศรษฐกิจตกต่ำว่าเป็นเพราะฝ่ายค้าน ซึ่งสหรัฐอเมริกาจ้างมาทำสงครามทางเศรษฐกิจ
ขณะที่มีผู้วิจารณ์ว่า เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาตกต่ำเพราะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบไม่ยั่งยืน พึ่งพารายได้จากน้ำมันอย่างหนัก ขณะที่ราคาน้ำมันโลกร่วงกราว
