หัวเว่ยประณามสหรัฐ ต่อลมหายใจ 90 วัน แต่เพิ่มโทษแบน
หัวเว่ยประณามสหรัฐ – วันที่ 20 ส.ค. เทคเรดาร์รายงานว่า หัวเว่ย ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อดังและผู้จำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมอันดับหนึ่งของโลกจากประเทศจีน ประณามทางการสหรัฐอเมริกาต่อกรณีการขยายกรอบมาตรการบอยคอตหัวเว่ย แม้จะยืดเวลาบังคับใช้ออกไปอีก 90 วัน
แถลงการณ์ประณามดังกล่าวของหัวเว่ยเกิดขึ้นหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มรายชื่อบรรดาเอกชนรายย่อยและบริษัทลูกของหัวเว่ยอีก 46 แห่ง ในบัญชีดำที่ห้ามเอกชนอเมริกันทำธุรกิจด้วย ขณะที่การยืดเวลาบังคับใช้เพิ่มเติมนั้นเป็นไปเพื่อให้ธุรกิจอเมริกันได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
หัวเว่ย ระบุว่า “เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าการตัดสินใจที่เกิดขึ้นของทางการสหรัฐนั้นมีแรงจูงใจทางการเมือง และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงตามที่สหรัฐเคยกล่าวอ้างก่อนหน้า” และว่า “ความพยายามสกัดกั้นธุรกิจของหัวเว่ยจะไม่ช่วยให้สหรัฐสามารถเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีได้”
รายงานระบุว่า การขึ้นทะเบียนบริษัทลูกและเอกชนที่มีความเกี่ยวโยงกับหัวเว่ยทั้ง 46 แห่ง ลงบัญชีดำของสหรัฐ จะส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยทำได้ยากขึ้นไปอีกในสหรัฐ และบั่นทอนความหวังที่สหรัฐจะยุติมาตรการดังกล่าวต่อหัวเว่ยในอนาคต
นอกจากนี้ การยืดเวลาบังคับใช้มาตรการดังกล่าวออกไปอีก 90 วัน ยังเป็นไปเพื่อประโยชน์ของธุรกิจอเมริกัน โดยทางการสหรัฐต้องการให้เวลาเพิ่มเพื่อให้บรรดาเอกชนทั้งหลายยุติการค้าขายและเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยอย่างสมบูรณ์
นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า ต้องการให้เวลาเพิ่มในช่วงที่กำลังเรียกร้องให้บรรดาเอกชนอเมริกันปรับเปลี่ยนธุรกิจขนานใหญ่
นายเดวิด ลัมบ์ ผู้เชี่ยวชาญไอทีจากเว็บไซต์เทคเรดาร์ มองว่า การยืดเวลาบังคับใช้มาตรการต่อหัวเว่ยออกไปอีก 90 วัน เคยถูกมองว่าเป็นสัญญาณของพัฒนาการทางบวกในสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ แต่เป็นที่ชัดเจนแล้วในตอนนี้ว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
นายลัมบ์ ระบุว่า สถานการณ์ล่าสุดนี้ จะยิ่งสร้างอุปสรรคต่อธุรกิจระหว่างหัวเว่ยกับกูเกิ้ล ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ขณะที่โอเอสฮาร์โมนีของหัวเว่ยที่เพิ่งเปิดตัวนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีความพร้อมเพียงใด หากต้องนำมาแทนแอนดรอยด์โดยเฉพาะในสมาร์ตโฟนเรือธงทั้งหลายของค่าย
