สลดเด็กชายถูกแม่ “ตีหัว” เพราะไม่ตั้งใจเรียน จนสมองเลือดออก “สำลักอ้วก” ดับ

สลดเด็กชายถูกแม่ “ตีหัว” – วันที่ 20 ก.ย. ไชน่าเพรส รายงานคดีสะเทือนใจในประเทศจีน หลังจากเด็กชายวัยประถมศึกษาในเมืองเซียนหยาง มณฑลส่านซี ทางตอนกลางของจีน ถูกผู้เป็นแม่ตีที่ศีรษะจนบาดเจ็บเพราะไม่ยอมตั้งใจเรียน ซ้ำร้ายอาการยังสาหัสจนเป็นเหตุให้เด็กชายอาเจียน กระทั่งสำลักเศษอาหารซึ่งเข้าไปติดหลอดลมและเสียชีวิตอย่างอนาถในเวลาต่อมา

รายงานระบุว่า นางหูซึ่งกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 เริ่มสอนหนังสือลูกชายด้วยตัวเองที่บบ้านตั้งแต่เดือนม.ค.2562 และมักจะตบหรือตีที่ศีรษะเพราะลูกชายไม่ตั้งใจเรียน หรือไม่ยอมทำการบ้านที่ให้ไป ซึ่งคืนวันเกิดเหตุเด็กชายโดนนางหูตีซ้ำๆ ที่ศีรษะ เนื่องจากโมโหที่ลูกไม่มีสมาธิ

สลดเด็กชายถูกแม่ “ตีหัว”

ภาพประกอบ : A mother from Shaanxi province in China has been sentenced to 3 years in prison for beating her son until he suffered severe head injuries and passed away from profuse vomiting. /China Press/

จากนั้นปล่อยให้ลูกชายเข้านอนตามปกติ แต่เมื่อตื่นขึ้นในอีกวันถัดมา นางหูก็ต้องช็อกเพราะพบว่าลูกชายอาเจียนอย่างรุนแรง แม้จะเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันการ เด็กชายเกิดอาการสำลักอาเจียนและเสียชีวิต

ขณะที่ผลชันสูตรศพชี้ว่า เด็กชายมีร่องรอยถูกของแข็งทุบตีที่ศีรษะ และนั่นเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง ซึ่งนำไปสู่การอาเจียน และทำให้เด็กชายเสียชีวิตในที่สุด

ต่อมาตำรวจนำกำลังจับกุมนางหู และควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจเขตอู๋กง เพื่อสอบปากคำดำเนินคดีในข้อหากระทำการประมาทจนผู้อื่นถึงแก่ชีวิต และแม้จะมีการเปิดเผยในชั้นศาลว่านางหูทำร้ายร่างกายลูกชายเป็นประจำ แต่ผู้พิพากษากลับตัดสินโทษจำคุกเพียง 3 ปี และถูกภาคทัณฑ์เป็นเวลา 3 โดยให้เหตุผลว่านางหูเพิ่งทำผิดเป็นครั้งแรก

สลดเด็กชายถูกแม่ “ตีหัว”

Forensics revealed that the boy was repeatedly hit in the head with a blunt object several times before this occasion. The deceased child was found to have suffered from subarachnoid hemorrhage, which caused the vomiting. /gettyimages/

เมื่อข่าวการดำเนินคดีถูกเผยแพร่ออกไป สังคมพากันวิจารณ์การทำงานของกระบวนการยุติธรรมอย่างดุเดือด ชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์ว่า “แค่เพราะเธอท้องคงก็จะปล่อยเธอหรือไง แล้วเด็กชายที่เคยทุกข์ทรมานล่ะ” อีกคนว่าถึงการอบรมลูกจะเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่คดีนี้ผู้เป็นแม่ทำเกินไปจริงๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน