วันที่ 9 เม.ย. เว็บไซต์เดอะซันรายงานว่า คณะที่ปรึกษาทางการทหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ว่า ทางเลือกเพียงทางเดียวที่จะยุติภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ คือ การสังหารนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ รวมถึงคณะผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์

AFP PHOTO / KCNA VIA KNS / STR / South Korea OUT

เนื่องจากความพยายามในการเจรจาทางการทูตตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่เป็นผล อีกทั้งยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการเด็ดขาดกดดันเกาหลีเหนือให้ล้มเลิกการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์ แม้การหารือระหว่างนายทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเป็นไปอย่างชื่นมื่น

Chinese President Xi Jinping (R) waves to the press as he walks with US President Donald . / AFP PHOTO / JIM WATSON

เจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยข่าวกรองสหรัฐ กล่าวว่าเพราะมาตรการคว่ำบาตร และนโยบายางการทูคตที่ใช้มานานกว่า 20 ปีไม่อาจยับยั้งโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ สหรัฐจึงต้องหาทางเลือกอื่นซึ่งรวมถึงการเพิ่มการประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทั้งในสหรัฐ และเกาหลีใต้

ขณะที่นายมาร์ก ลิปเพิร์ด อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเกาหลีใต้ กล่าวว่าการเพิ่มจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ได้รับการยอมรับจากประชาชนมาก ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดระบุว่ามากกว่าร้อยละ 50 เห็นด้วยกับการเพิ่มอาวุธนิวเคลียร์เพื่อรับมือกับการยั่วยุของเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตาม นายลิปเพิร์ดกล่าวว่าเป็นแนวคิดที่เลวร้าย ขัดต่อความพยายามในการรักษาซึ่งเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐเอง รวมทั้งความต้องการที่จะการลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีของรัฐบาลเกาหลีใต้ด้วย ดังนั้นการสังหารนายคิมดูจึงเป็นทางเลือกที่น่าจะได้ผลที่สุด

AFP PHOTO / KCNA VIA KNS / STR / South Korea OUT








Advertisement

วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานว่ากองบัญชาการทหารภาคพื้นแปซิฟิกของสหรัฐ มีคำสั่งให้ส่งเรือรบบรรทุกเครื่องบินโจมตีคาร์ล วินสัน สไตร์ก กรุ๊ป รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นนิมิตซ์ ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน จากสิงคโปร์ไปประจำการในคาบสมุทรเกาหลีเพื่อแสดงแสนยานุภาพและสร้างความหวาดหวั่นให้กับเกาหลีเหนือ แทนแผนการเดิมที่จะส่งไปประจำการที่ท่าเรือออสเตรเลีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน