หน้ากากอาละวาด ! ฮ่องกงต่อต้านหนักอีก รัฐบาลห้ามชุมนุมปิดหน้า
หน้ากากอาละวาด – วันที่ 5 ต.ค. รอยเตอร์ รายงานสถานการณ์การประท้วงของฮ่องกงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 18 ว่า บรรยากาศการต่อต้านรัฐบาลขยายวงขึ้นอีก ผู้ประท้วงวัยรุ่นจุดไฟตามท้องถนน และทำลายทรัพย์สิน ทุบกระจก ตามสถานที่ราชการ และสถานีรถไฟฟ้า เอ็มทีอาร์ ตลอดคืนวันศุกร์ที่ 4 ต.ค. ทั้งยังทำร้ายตำรวจที่อยู่นอกเวลาราชการจนเลือดตกยางออก
หลังนางแคร์รี่ หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประกาศใช้กฎหมายข้อบังคับห้ามกลุ่มผู้ประท้วงสวมหน้ากากออกมาชุมนุมทางการเมือง
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัท เอ็มทีอาร์ ประกาศระงับการให้บริการรถไฟฟ้าทั้งหมด ต่อเนื่องตลอดวันเสาร์ที่ 5 ต.ค.
Riot police chase away anti-government protesters near Causeway Bay metro station . REUTERS/Susana Vera
ข้อบังคับดังกล่าว บัญญัติภายใต้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่ต้องผ่านการพิจารณาของสภา แต่นางหล่ำย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินอย่างเป็นทางการ คนทั่วไปใส่หน้ากากอนามัยตามท้องถนนได้ เพียงแต่ต้องถอดออกเมื่อตำรวจสั่ง ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือนขึ้นไป
Anti-government protesters run away from a tear gas canister in Wong Tai Sin district, in Hong Kong, China October 4, 2019. REUTERS/Athit Perawongmetha
“เราเชื่อว่ากฎหมายใหม่ฉบับนี้จะเป็นการยับยั้งกลุ่มผู้ประท้วงใช้ความรุนแรงและผู้ก่อจลาจล และจะเป็นการช่วยตำรวจในการบังคับใช้กฎหมายด้วย” นางหล่ำกล่าว ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ สวมหน้ากากออกมาชุมนุมบนท้องถนนช่วงเที่ยง เพื่อต่อต้านการใช้ข้อบังคับสถานการณ์ฉุกเฉิน
Hong Kong Chief Executive Carrie Lam speaks during a press conference held in Hong Kong on Friday, Oct. 4, 2019. (AP Photo/Kin Cheung)
ข้อบังคับทางกฎหมายนี้เคยใช้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2510 หรือ 52 ปีก่อน สมัยอาณานิคมอังกฤษ เพื่อหยุดยั้งจลาจลของกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายที่ก่อเหตุระเบิดและสังหารประชาชนเสียชีวิตมากกว่า 50 ราย โดยเพิ่มอำนาจตำรวจในการจับกุมและเซ็นเซอร์สื่อ กระทั่งมาใช้ล่าสุดนี้หลังเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มสูงสุดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ตรงกับวันการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน 70 ปี มีวัยรุ่นอายุ 18 ปีถูกกระสุนจริงยิงบาดเจ็บ
ผู้ประท้วงถูกยิงบาดเจ็บ / South China Morning Post
เจ้าหน้าที่ทางการมองว่าหน้ากากเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงปกปิดอัตลักษณ์ไม่ให้ตำรวจติดตามจับกุมได้ ไม่ว่าหมวกนิรภัย แว่นตากันลม และเครื่องช่วยหายใจ อีกทั้งยังป้องกันแก๊สน้ำตาและกระสุนยางจากตำรวจ
แต่ชาวฮ่องกงเห็นว่าการห้ามใส่หน้ากากไม่ได้เป็นประโยชน์เท่าใดนัก เพราะผู้ประท้วงวัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่สนใจว่าจะต้องติดคุกหรือไม่ แต่มุ่งต่อต้านอิทธิพลจีนในฮ่องกง ด้วยความกลัวที่เสรีภาพเริ่มถูกกัดกร่อน ไม่เป็นไปตามคำสัญญาหนึ่งประเทศสองระบบ
++++
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ : ยกระดับคุมม็อบ ฮ่องกงเตรียมใช้กม.ฉุกเฉิน – ห้ามสวม “หน้ากาก” ชุมนุม
