ออสซี่ยกเลิกวีซ่า – แบน 3 ปี หญิงเวียดนามซุก “เนื้อหมู” เข้าประเทศ
ออสซี่ยกเลิกวีซ่า – วันที่ 15 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า ทางการออสเตรเลียขับหญิงเวียดนาม อายุ 45 ปี ออกนอกประเทศ หลังลักลอบนำเนื้อหมู 10 ก.ก. เข้ามาแต่ไม่สำแดงต่อเจ้าหน้าที่ ในสนามบินนครซิดนีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
Australian Department of Agriculture
ถือเป็นครั้งแรกที่ออสเตรเลียยกเลิกวีซ่าชาวต่างชาติเพราะผลิตภัณฑ์อาหาร ภายใต้กฎหมายความปลอดภัยชีวภาพเข้มงวดฉบับใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไข้หวัดหมูแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศ
หญิงเวียดนามรายนี้ลักลอบเนื้อหมูดิบ 10 ก.ก. ในกระเป๋าสัมภาระ นอกจากนี้มี เนื้อนกกระทา ปาเต (เนื้อบดผสมไขมัน) ปลาหมึก และอาหารสดชนิดอื่น
พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองออสเตรเลียซึ่งได้รับการแก้ไขเมื่อเดือนเมษายน ผู้มาเยือนออสเตรเลียมีสิทธิ์ถูกปฏิเสธวีซ่าหรือลดระยะเวลาวีซ่าหากละเมิดกฎหมายความปลอดภัยชีวภาพ ซึ่งมีโทษปรับ
แต่หญิงเวียดนามรายนี้ เนื่องจากลักลอบนำอาหารเข้ามาจำนวนมาก จึงถูกส่งกลับเวียดนามแทน และห้ามเข้าออสเตรเลียเป็นเวลา 3 ปี
Getty Image
ทั้งนี้ เนื้อหมูเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในออสเตรเลีย ตัวเลขประมาณอย่างเป็นทางการระบุว่า อุตสาหกรรมเนื้อหมูของออสเตรเลียมีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 1 แสนล้านบาท
หน่วยงานความปลอดภัยชีวภาพออสเตรเลียเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองสัมภาระที่สนามบินและพัสดุจากบริการไปรษณีย์ หลังพบการระบาดไข้หวัดหมูในติมอร์ตะวันออกเมื่อเดือนก.ย. ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดออสเตรเลีย
กระทรวงเกษตรออสเตรเลียระบุว่า นับตั้งแต่เดือนก.พ. มีการยึดผลิตภัณฑ์เนื้อหมูที่ชายแดนของประเทศแล้ว 27 ตัน และจำนวนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ที่ปนเปื้อนไข้หวัดหมูมีเพิ่มขึ้นจาก 15% ในเดือนก.พ. เป็น 48% ในเดือนก.ย.
หลายประเทศในทวีปเอเชียพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมู ซึ่งไม่อันตรายต่อมนุษย์แต่ทำให้สุกรตาย 100% เริ่มจาก จีน ซึ่งมีเนื้อหมูสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งของโลก ยืนยันการแพร่ระบาดเมื่อเดือนส.ค. ทำให้ทางการจีนกำจัดหมูมากกว่า 1 ล้านตัว ต่อมา เวียดนาม ซึ่งกำจัดสุกรไปมากกว่า 5 ล้านตัว
ส่วนที่เกาหลีใต้ ทหารและนักล่าสัตว์ร่วมกันกำจัดหมูป่าตามชายแดนติดกับเกาหลีเหนือเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดไข้หวัดหมูด้วย
