ลุ้นชีวิตทารกน้อย ฟื้นจากโคม่า หมอพบเป็นเนื้องอกในหัวใจ
ลุ้นชีวิตทารกน้อย – วันที่ 28 ต.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานการดิ้นรนของครอบครัวชาวอังกฤษที่อยู่ระหว่างพยายามพาทารกน้อยวัย 14 เดือน ไปผ่าตัดรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกา หลังแพทย์อังกฤษพบว่าเป็นเนื้องอกในหัวใจ ทำให้ทารกหัวใจวายเฉียบพลัน และเพิ่งฟื้นจากโคม่านานถึง 5 วัน
ทารกน้อยดังกล่าว ทราบชื่อว่า “ไมเคิล” เป็นลูกคนสุดท้องในครอบครัวลาบูสกักนีส์ ในประเทศอังกฤษ โดยหนูน้อยไมเคิลวัย 14 เดือน หยุดหายใจจากอาการหัวใจวายเฉียบพลันเมื่อ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้นางเอ็มม่า และนายสจ๊วต เรียกหน่วยกู้ภัยเข้าปั๊มหัวใจกู้ชีวิตกลับมาได้
ด้านแพทย์ที่โรงพยาบาล ระบุว่า ไมเคิล ป่วยเป็นโรคหายากมากในทารก คือ เนื้องอกในหัวใจ (cardiac fibroma) เส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่มากหากเทียบกับขนาดหัวใจของทารก ทำให้อาจอุดกั้นไม่ให้เลือดเข้าหัวใจได้ ที่สำคัญ คือ ไม่มีศัลยแพทย์คนใดในอังกฤษที่เชี่ยวชาญพาจะผ่าตัดด้วย
รายงานระบุว่า ไมเคิล ถูกแพทย์วางยาสลบให้อยู่ในอาการโคม่านาน 5 วัน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อสมองจากอาการช็อกหัวใจวาย โดยเมื่อไมเคิลตื่นขึ้นมาก็ฉีกยิ้มให้กับนางเอ็มม่า และนายสจ๊วต
“มันเป็นช่วงเวลาที่ดิฉันจะจดจำตลอดไปเลยค่ะ” และว่า “ดิฉันเห็นลูกฟื้นแล้วมีความสุขมากที่สุด เค้าคือปาฏิหาริย์ที่มีชีวิต และดิฉันภูมิใจในตัวลูกมากๆ” เอ็มม่า ระบุ
อย่างไรก็ดี คณะแพทย์อังกฤษ ระบุว่า ครอบครัวมีสองทางเลือก คือ รอคิวผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ หรือนำตัวไมเคิลไปรักษากับแพทย์ในต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญ ส่งผลให้ทางครอบครัวใช้เวลาจำนวนมากเพื่อค้นหาแพทย์และโรงพยาบาลที่สามารถรักษาไมเคิลได้ จนกระทั่งพบโรงพยาบาลเด็กในสหรัฐ
โรงพยาบาลดังกล่าวอยู่ที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐ และมีประวัติผ่าตัดรักษาเนื้องอกในหัวใจได้สำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ นายแพทย์เปโดร เดล นีโด และแพทย์หญิงทัล จีวา แต่ปัญหาคือค่าใช้จ่ายสูงมาก
เอ็มม่า แม่ของเด็ก ระบุว่า ทางโรงพยาบาลคาดว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 147,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.4 ล้านบาท ไม่รวมค่าเดินทาง และรายได้ที่ต้องเสียไปจากการลางานของครอบครัว อย่างไรก็ตาม พ่อและแม่ของไมเคิล ยืนยันว่า “เท่าไหร่ก็จะจ่าย เพื่อช่วยชีวิตลูกให้ได้”
นางเอ็มม่า เขียนเล่าเรื่องในเว็บไซต์ระดมทุน โกฟันด์มี (GoFundMe) เมื่อ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา และมีผู้เข้ามาให้กำลังใจรวมทั้งบริจาคเงินเข้ามาจำนวนมากเกือบ 6 ล้านบาทแล้วในขณะนี้ ขณะที่ไมเคิลต้องได้รับการดูแลและยาวันละ 4 ครั้ง โดยทางครอบครัวมีแผนจะเดินทางไปสหรัฐในเดือนเม.ย. ปีหน้า
