อิรักฮือประท้วงต่อ หลังวันนองเลือด สังเวยอีก 45ศพ ไล่รัฐบาล
อิรักฮือประท้วงต่อ – เอเอฟพี รายงานว่า เมื่อ 29 พ.ย. ผู้ประท้วงชาวอิรักนับหมื่นคนทั่วพื้นที่ทางใต้ของประเทศหวนชุมนุมใหญ่อีกครั้ง แม้มีผู้เสียชีวิตถึง 45 รายในการปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบหลายพื้นที่
ความรุนแรงล่าสุดเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 28 พ.ย. ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่คอร์รัปชั่นและไร้ประสิทธิภาพ สูงเกือบ 400 ราย และบาดเจ็บกว่า 15,000 คน นับจากมีการประชุมในกรุงแบกแดด เมืองหลวงและพื้นที่ทางใต้ที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือนิกายชีอะห์ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.
การชุมนุมประท้วงของกลุ่มรากหญ้า ผันเป็นเหตุการณ์นองเลือดที่สุดของอิรัก หลังสถานการณ์ความมั่นคงยังเปราะบางจากสงครามที่สหรัฐยกทัพบุก เมื่อปี 2546 เมื่อมีผู้เสียชีวิตภายในวันเดียวกว่า 45 ศพ ในจำนวนนี้ 26 ราย อยู่ที่เมืองนาสิริยาห์ ทางตอนใต้ พื้นที่การปะทะรุนแรง
มีรายงานว่ามวลชนชุมนุมไปชุมนุมยังจัตุรัสหลักของเมืองและเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก ขณะเดียวกันมีการเผายางรถยนต์ตามทางหลวงที่เป็นเส้นทางขึ้นไปทางเหนือ เจ้าหน้าที่แพทย์เห็นผู้ประท้วงอย่างน้อย 3 คนบาดเจ็บหนักจากการปะทะตำรวจ ที่หน้าสถานีตำรวจ
ผู้นำนักเทศน์นิกายชีอะห์ แกรนด์ อยาตอลเลาะห์ อาลี ซิสตานี กล่าวเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติ ยุติการสนับสนุนคณะรัฐมนตรี เพราะสองเดือนมานี้ ทำให้ผู้ประท้วงตายไปเกือบ 400 คนแล้ว
“ข้าพเจ้าของให้ท่านทบทวนทางเลือกที่จะปกป้องผลประโยชน์ของอิรัก และรักษาเลือดเยาวชนของประเทศด้วย” ผู้นำทางศาสนากล่าวที่เมืองคาร์บาลา