เอเอฟพีรายงานวันที่ 26 เม.ย. ว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง วัย 39 ปี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่เป็นตัวเต็งว่าจะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค.นี้ เผชิญบททดสอบครั้งใหญ่ระหว่างการหาเสียง เมื่อถูกรุมโห่จากกลุ่มคนงานผู้สนับสนุนนางมารีน เลอ เปน ผู้ท้าชิงจากฝ่ายขวาจัด ท่ามกลางบรรยากาศชุลมุน
เหตุเกิดที่เมืองอาเมียงส์ ทางภาคเหนือ นางเลอเปนไปหาเสียงกับกลุ่มคนงานบริษัทเวิร์ลพูลก่อน จากนั้นไม่กี่ชั่วโมง นายมาครงก็ไปซ้ำที่เดียวกัน จึงถูกกลุ่มคนงานตะโกนใส่ว่า “ประธานาธิบดีมารีน!” เพื่อจะบอกว่ามีตัวเลือกในดวงใจแล้ว ไม่ต้องมาหาเสียงในถิ่นนี้
อย่างไรก็ตาม นายมาครงพยายามจะเจรจากับกลุ่มคนงาน โดยมีนักข่าวช่างภาพล้อมรอบแน่นไปหมด ว่า “ผมมาที่นี่เพื่อพูดคุยกับพวกคุณนะ แน่นอน มันคงจะมีความโกรธไม่พอใจ และวิตกกังวลอยู่ในประเทศนี้ เรื่องนี้จึงต้องมีใครเข้ามาดูแลรับผิดชอบ และนั่นเป็นเหตุผลที่ผมมาที่นี่”
โรงงานเวิร์ลพูล ในเมืองอาเมียงส์ เป็นกิจการของสหรัฐอเมริกา และสุ่มเสี่ยงจะถูกปิดเพื่อย้ายโรงงานไปยังประเทศโปแลนด์แทน หลังจากเพิ่งถูกปรับลดพนักงานไปสองสัปดาห์ก่อน
สำหรับโพลสำรวจความนิยมเมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายมาครงมีคะแนนนำนางเลอเปนอยู่กว่า 21 จุด แต่ความที่นักการเมืองหญิงมีประสบการณ์มากกว่า บวกกับกระแสเอียงขวาที่มาแรง จึงทำให้ไม่แน่ว่าอาจมีสถานการณ์พลิกผัน ดังที่เคยเกิดมาแล้วในอเมริกา กรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง และการที่อังกฤษต้องออกจากอียู หลังการลงประชามติที่ฝ่ายขวาพลิกมาชนะ