ตะวันออกกลางระอุต่อ โลกเกร็งเอพิโซดทู อิหร่านลั่นดาบสอง
ตะวันออกกลางระอุต่อ โลกเกร็งเอพิโซดทู – วันที่ 9 ม.ค. เดลี่เมล์ รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งระดับวิกฤตระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ว่าทางการอิหร่านขู่จะดำเนินการแก้แค้นสหรัฐขั้นต่อไปในไม่ช้า หลังโดรนสหรัฐยิงสังหารพลตรี กาซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยคุดส์ของอิหร่าน
นายอับดุลลาห์ อรากี ผู้บัญชาการกองกำลังปฏิวัติอิสลามอิหร่าน กล่าวว่า จะดำเนินการแก้แค้นสหรัฐขั้นต่อไปในไม่ช้า ขัดแย้งกับคำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่แถลงข่าวว่า อิหร่านมีท่าทีสงบลงแล้วหลังปล่อยขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอิรัก 2 แห่ง ซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ แต่ไม่พบว่ามีทหารอเมริกันบาดเจ็บเสียชีวิต
ท่าทีดังกล่าวของผู้บัญชาการกองกำลังปฏิวัติอิสลามอิหร่านยังสอดคล้องกับท่าทีของนายอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ที่แสดงท่าทีว่าการดำเนินการตอบโต้สหรัฐของอิหร่านนั้นเพิ่งเริ่มต้น
ขณะที่เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ต้องการให้อิหร่านให้ความร่วมมือด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งของสหรัฐ บ่งชี้ว่าวิกฤตความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่จบสิ้น
ท่าทีล่าสุดของอิหร่านเกิดขึ้นหลังกองกำลังปฏิวัติอิสลามปล่อยขีปนาวุธวิถีโค้ง 22 ลูก โจมตีใส่ฐานทัพอากาศไอน์ อัล อัสซาด ทางภาคตะวันตก และเออร์บิล ในแคว้นเคิร์ดิสถาน ทางภาคเหนือของประเทศอิรัก โดยนายคาเมนี ระบุว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเสมือนการ “ตบหน้าฉาดใหญ่” ต่อสหรัฐ
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวถึงการตัดสินใจสังหารพล.ต. สุไลมานี ซึ่งถูกมองว่าเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งขั้นแตกหักกับอิหร่าน ว่าพล.ต. สุไลมานีนั้นควรถูกสังหารนานแล้ว
พร้อมย้ำว่ากองทัพสหรัฐนั้นมีความพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ แต่อิหร่านนั้นมีท่าทีสงบลงหลังเหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกฝ่าย
“แม้สหรัฐจะมียุทโธปกรณ์และกองทัพที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะนำไปใช้ เราไม่ต้องการใช้สิ่งเหล่านี้ เพราะความแข็งแกร่งของกองทัพและชาวอเมริกัน รวมทั้งความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจนั้นเป็นสิ่งป้องปรามศัตรูของเราที่ดีที่สุด”
และว่าสหรัฐจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจขั้นรุนแรงที่สุดเท่าท่เคยมีมา เพื่อตอบโต้ความก้าวร้าวของอิหร่าน
เหตุโจมตีดังกล่าวของอิหร่านต่อฐานทัพอากาศ 2 แห่งในอิรัก สร้างความกังวลให้ประชาคมโลกว่าอาจทำให้ความขัดแย้งระดับวิกฤตดังกล่าวลุกลามจนกลายเป็นสงครามใหญ่ระหว่างสองชาติจนทำให้มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตจำนวนมาก
ทว่า การโจมตีดังกล่าวของอิหร่านสร้างความโล่งใจให้หลายฝ่าย โดยผู้นำสหรัฐยืนยันว่าไม่มีทหารอเมริกันบาดเจ็บเสียชีวิตแม้แต่นายเดียว ขัดแย้งกับสถานีโทรทัศน์อิหร่านที่ รายงานว่า มีทหารอเมริกันเสียชีวิตอย่างน้อย 80 นาย และบาดเจ็บกว่า 200 คน จากการโจมตีของอิหร่าน
รายงานระบุว่า ก่อนการโจมตีจะเกิดขึ้นนั้นทางการอิหร่านส่งคำเตือนมายังอิรัก โดยนายอเดล อับดุล มาห์ดี นายกรัฐมนตรีอิรัก ระบุว่า ทางการอิรักส่งคำเตือนดังกล่าวไปยังหน่วยงานทีเกี่ยวข้องของสหรัฐ ทำให้ทหารอเมริกันทั้งหมดสามารถหลบเข้าหลุมหลบภัยได้ทันท่วงที
แม้ทางอิหร่านจะไม่ได้แจ้งว่าจะโจมตีสถานที่ใด แต่เตือนว่าจะโจมตีเฉพาะพื้นที่ที่มีกองทัพสหรัฐอยู่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะที่ขีปนาวุธกำลังพุ่งเข้าถล่มฐานทัพอากาศของอิรักเป็นระลอกนั้น ตนได้รับโทรศัพท์จากทางการสหรัฐแจ้งว่าทราบล่วงหน้าแล้วว่าจะมีการโจมตี
ด้านนายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ระบุหลังเสร็จสิ้นภารกิจยิงถล่มดังกล่าว ว่าอิหร่านได้ดำเนินมาตรการตอบโต้ที่สมน้ำสมเนื้อต่อสหรัฐเสร็จสิ้นแล้ว ขณะที่รองผบ.กองกำลังปฏิวัติอิสลามอิหร่านนั้น กล่าวเย้ยหยันสหรัฐว่าไม่สามารถหยุดยั้งอิหร่านได้
