ฝนกระหน่ำซิดนีย์หนักสุดรอบ30ปี ดับไฟป่ายืดเยื้อ น้ำท่วมแทน
ฝนกระหน่ำซิดนีย์หนักสุดรอบ30ปี – วันที่ 10 ก.พ. ซิดนีย์ เฮอรัลด์ มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย รวมถึงนครซิดนีย์ เจอสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว หลังจากไฟป่าลาม ขณะนี้ตามด้วยฝนตกหนักที่สุดในรอบ 30 ปีในนครซิดนีย์ นับตั้งแต่บันทึกมา ก่อน้ำท่วม ไฟดับ และสร้างความโกลาหลให้กับผู้เดินทาง ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพจากบ้านไปอยู่ที่พักพิงชั่วคราว
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ปริมาณฝนในช่วง 4 วันที่ผ่านมา มีปริมาณ 391.6 มิลลิเมตร เตือนว่าอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันอันตรายถึงชีวิต สถานการณ์ปัจจุบันส่งผลให้บ้านเรือนราว 100,000 หลัง ไร้ไฟฟ้าใช้ เบื้องต้นทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายคน รวมถึงประชาชน 4 คนที่นั่งอยู่ในรถขณะต้นไม้ล้มทับ
อย่างไรก็ตามฝนที่ตกลงมาอย่างหนักช่วยสยบปัญหาไฟป่าที่ใหญ่ที่สุด 2 จุด ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่ลามหนักช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ได้แก่ จุดเคอโรแวน ที่ไหม้มา 74 วัน รอบๆ เมืองชอลฮาเวน ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 3 ล้านไร่และทำลายบ้าน 312 หลัง
A resident inspects sea foam brought by waves approaching on beach front houses after heavy rain and storms at Collaroy in Sydney’s Northern Beaches, Monday, February 10, 2020. (Joel Carrett, AAP Image via AP)
ส่วนอีกจุด แถบภูเขากอสเปอร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซิดนีย์ ที่เคยคิดว่า ไฟไหม้หนักเกินไปที่จะดับได้ ซึ่งไหม้มาตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2562 นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งหนัก ทำให้น้ำในเขื่อนวอร์ราแกมบาเพิ่มจนถึงร้อยละ 70 จากที่สัปดาห์ที่แล้วปริมาณน้ำในเขื่อนเพียงร้อยละ 42
นอกจากนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนวอร์รากัมบา เพิ่มปริมาณเป็นร้อยละ 64.2 ของเขื่อน หรือเพิ่มขึ้นทันทีร้อยละ 50 ภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว
ด้านสำนักข่าวเอพี รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมเห็นว่า การที่ฝนกระหน่ำจนเพิ่มปริมาณน้ำในแม่น้ำต่างๆ และทำให้ผืนดินชุ่มชื้น โดยเฉพาะพื้นที่ด้านในที่แล้งติดต่อมา 3 ปีแล้ว
+++++
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ไฟป่าออสเตรเลีย : วิกฤตใหญ่ที่เผาผลาญพื้นที่ 2 รัฐไปแล้วกว่า 30 ล้านไร่ นับแต่กลางปีที่แล้ว
