ไม่กังวลไวรัสโควิด-19 – วันที่ 12 ก.พ. เวิลด์ออฟบัซ รายงานว่า เนื้อค้างคาวยังเป็นที่นิยมในหลายพื้นที่ของอินโดนีเซีย แม้จะมีคำเตือนจากการวิจัยว่า ค้างคาวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 สามารถอาศัยอยู่และถูกส่งผ่านไปสู่มนุษย์ได้ ความต้องการเนื้อค้างคาวยังมีต่อเนื่องและมีขายมากเป็นพิเศษในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ
Source: The Star
กลุ่มชาติพันธุ์มีนาฮาซันในจังหวัดสุลาเวสีเหนือชอบนำค้างคาวทั้งตัวมาทำอาหารเช่น ปานีกี ที่มีส่วนประกอบเนื้อค้างคาวและแกงคล้ายแกงกะหรี่
สเตนลี ทิมบูเลง พ่อค้าค้างคาวจากเมืองโทโมฮอน บอกกับ รอยเตอร์ ว่า การขายเนื้อค้างคาวไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และผู้คนแห่ซื้อกันมากจนขายหมด จากปกติขายวันละ 50-60 ตัว แต่ระหว่างช่วงเทศกาลจะสามารถขายได้มากถึงวันละ 600 ตัว
Source: Sinchew
วิลเลียม ว. วงโซ ผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหารและผู้ประพันธ์หนังสือปรุงอาหารอินโดนีเซีย กล่าวว่า ค้างคาวเป็นโปรตีนพื้นเมืองที่ได้รับความนิยม พ่อครัวจะเอาต่อมออกจากรักแร้และคอของค้างคาวเพื่อขจัดกลิ่นไม่ดีออกไป
ค้างคาวที่เตรียมแล้วจะถูกนำมาย่างหรือเผาเพื่อขจัดเส้นขนออไป จากนั้น ค้างคาวทั้งตัว รวมถึงหัวและปีก จะถูกสับและปรุงในแกงที่มีสมุนไพร เครื่องเทศ และกะทิ ดูเหมือนแกงกะหรี่ ขณะที่ร้านอาหารพื้นบ้านสุลาเวสีเหนือในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวง ได้เอาเมนูค้างคาวออกไป แต่ชาวสุลาเวสีเหนือยังกินค้างคาวต่อไป
Source: Astro Awani
จูฟรี มันตัก ชาวเมืองมานาโด เมืองหลักของสุลาเวสีเหนือ กล่าวว่า ไม่รังเกียจที่จะกินค้างคาวแม้จะมีความเชื่อมโยงกับไวรัสโควิด-19 “ผมไม่พบผู้ป่วยติดไวรัสโควิด-19 ในเมืองมานาโดจนถึงตอนนี้ และยังมีหลายคนกินค้างคาว เนื่องจากเป็นของดีโดยเฉพาะเวลานำมาปรุงอาหารกับกะทิ”
สำหรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 1,115 ราย และยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นกว่า 45,171 คน ไวรัสโควิด-19 เชื่อว่ามีต้นตนจากตลาดสดในเมืองอู่ฮั่นของจีน แหล่งค้าสัตว์ป่ารวมถึงค้างคาวอย่างผิดกฎหมาย ก่อนจะระบาดเป็นวงกว้างจากในจีนและพบการระบาดในหลายประเทศทั่วโลก
________________________
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
