เมื่อวันที่ 21 พ.ค. บีบีซีและเอเอฟพีรายงานว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา สร้างความฮือฮาในทริปการเยือนซาอุดีอาระเบีย เป็นการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดี ด้วยการจรดปากกาในข้อตกลงด้านการค้าระหว่างกันรวม 380,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 13 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการซื้อขายอาวุธ 110,000 ล้านดอลาร์ หรือเกือบ 3.8 ล้านล้านบาท
สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อัล-ซาอุด แห่งซาอุดีอาระเบียทรงชื่นชมนายทรัมป์ผ่านข้อความทางทวิตเตอร์ว่า การเยือนของผู้นำสหรัฐครั้งนี้จะเป็นการกระชับยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างกัน ต่อมายังพระราชทานเหรียญพลเรือนสูงสุดของซาอุดีอาระเบียให้กับนายทรัมป์อีกด้วย
นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเผยถึงข้อตกลงการซื้ออาวุธ ว่าเป็นหนึ่งในการป้องกันอิทธิพลอันเป็นภัยจากอิหร่าน พร้อมระบุอีกว่าในข้อตกลงของยุทโธปกรณ์ด้านกลาโหมและการช่วยเหลือจะเป็นการเสริมความมั่นคงให้กับซาอุดีอาระเบียรวมถึงภูมิภาคอีกด้วย
นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวเพิ่มเติมว่า ซาอุดีอาระเบียลงนามในการซื้ออาวุธที่ผลิตในสหรัฐ และเป็นการซื้อขายที่มีตัวเลขมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งหนึ่งในข้อตกลงรวมไปถึงการประกอบเฮลิคอปเตอร์รุ่นแบล็กฮอว์ก จำนวน 150 ลำ ในซาอุดีอาระเบีย มูลค่าสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท
ในคณะเดินทางของทรัมป์ นอกจากมีนางเมลาเนีย ภริยา ยังมีบุคคลในครอบครัวคือ นางอิวานกา ทรัมป์ ลูกสาว ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัว นายจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขย ในฐานะที่ปรึกษาประธานาธิบดี ร่วมเดินทางด้วย
หลังจากปิดทริปซาอุดีอาระเบียแล้ว ทรัมป์มีกำหนดเดินทางต่อไปยังอิสราเอล ต่อด้วยกรุงโรมของอิตาลีและวาติกันเพื่อเข้าเฝ้าประสันตะปาปาฟรานซิส
ต่อจากนั้นก็ร่วมประชุมองค์กรสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ ที่กรุงบรัสเซลส์ ในวันที่ 25 พ.คง และร่วมประชุมจี-7 ที่เมืองซิซีลี ประเทศอิตาลี ในวันศุกร์เป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับสหรัฐ