โควิด-19 ในยุโรปลามอีก – วันที่ 25 ก.พ. เอเอฟพี รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในยุโรปว่า โครเอเชีย ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นสามประเทศล่าสุดในยุโรปที่ยืนยันการพบผู้ติดเชื้อเคสแรกในประเทศตัวเอง
โครเอเชียยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรก เป็นชายหนุ่มหลังเพิ่งเดินทางกลับจากอิตาลี ซึ่งอยู่ตรงข้ามโครเอเชียโดยมีทะเลเอเดรียติกอยู่ตรงกลาง
ขณะที่ออสเตรียยืนยันผู้ติดเชื้อ 2 รายแรก ในรัฐทีโรล ทางใต้ ซึ่งพรมแดนติดกับอิตาลี ในจำนวนนี้ ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งมาจากแคว้นลอมบาร์เดียของอิตาลี อย่างไรก็ตาม ออสเตรียยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ทั้งสองรายติดไวรัสมาได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ ออสเตรียพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อมากกว่า 200 คน แต่ผลตรวจหาเชื้อทั้งหมดเป็นลบ
ส่วนสวิตเซอร์แลนด์รายงานผู้ติดเชื้อรายแรก ในรัฐตีชีโน ทางใต้สุดของประเทศ ซึ่งพรมแดนติดกับอิตาลี
เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์แถลงว่า ประเทศอยู่ในสถานะเฝ้าระวังมากขึ้น หลังการระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิด-19 ในอิตาลี และพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 300 คน แต่ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบทั้งหมด
สำหรับสถานการณ์ภายในอิตาลี ประเทศที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดในยุโรป ไวรัสโควิด-19 ลามไปถึงแคว้นทัสคานี ซึ่งรายงานการพบผู้ติดเชื้อ 2 รายแรก ในจำนวนนี้ 1 คน มีเป้าหมายเดินทางไปเมืองฟลอเรนซ์ และแคว้นซิซิลีที่พบผู้ติดเชื้อ 1 คน เป็นนักท่องเที่ยวจากแคว้นลอมบาร์เดีย ส่วนแคว้นลีกูเรียรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายแรกด้วย เป็นคนอายุ 70 ปี แต่ผลการตรวจสอบที่ชัดเจนยังต้องมาจากสถาบันโรคติดเชื้อของอิตาลี
ด้านนายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ตำหนิโรงพยาบาลทางเหนือแห่งหนึ่งที่มีการจัดการอย่างย่ำแย่ เป็นต้นตอของการระบาดในประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มเป็น 289 คน ในจำนวนนี้ 212 คน มาจากแคว้นลอมบาร์เดีย และยอดผู้เสียชีวิตในประเทศอยู่ที่ 7 ราย
นายคอนเตยืนกรานว่า ระบบสาธารณสุขของอิตาลีอยู่ในกลุ่มเข้มงวดที่สุด และเตือนว่าไม่ยุติธรรมที่ประเทศอื่นพยายามจำกัดการเดินทางข้ามประเทศของพลเมืองอิตาลี เป็นเรื่องไม่สามารถยอมรับได้
