เรือดำน้ำพลังแบตลิเธียม ญี่ปุ่นนำเข้าประจำการลำแรก เร่งพัฒนาโดรนดำน้ำ

เรือดำน้ำพลังแบตลิเธียม ญี่ปุ่นนำเข้าประจำการลำแรก เร่งพัฒนาโดรนดำน้ำ

เรือดำน้ำพลังแบตลิเธียม – วันที่ 10 มี.ค. เดลีเมล์รายงานว่า กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (JSDF) นำเรือดำน้ำพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีลิเธียม-ไอออน เข้าประจำการเป็นลำแรกแล้ว

เรือดำน้ำพลังงานไฟฟ้าลำดังกล่าวมีรหัสเรียกขานว่า โอริว เป็นผลงานจากบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรี (MHI) สร้างขึ้นที่อู่ต่อเรือเมืองโกเบและเสร็จสิ้นเมื่อปี 2561 แต่เพิ่งเข้าประจำการ

รายงานระบุว่า เรือดำน้ำลำดังกล่าว ถือเป็นลำที่ 6 ในคลาสโซริวของ JSDF ที่ MHI สร้างขึ้น มีภารกิจหลักในการล่าและทำลายเรือดำน้ำของข้าศึก ใช้เครื่องยนตร์หลักเป็นเครื่องดีเซล แต่ทดแทนแบตตะกั่ว-กรด ด้วยแบตรุ่นใหม่ มีความเร็วสูงสุด 20 น็อต (37 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ขณะดำน้ำ

โอริว มีความยาว 84 เมตร น้ำหนักประมาณ 1.4 ตัน รองรับลูกเรือได้เต็มที่ 65 นาย มีอาวุธหลักเป็นตอร์ปิโดความยาว 0.5 เมตร จำนวน 30 ลูก ขณะที่แบตรุ่นใหม่นั้นเป็นแบต ลิเธียม นิกเกิล โคบอลต์ อลูมินัม ออกไซด์ (NCA)

นายมาซาโอะ โคบายาชิ อดีตผู้บัญชาการสูงสุดของ JSDF ระบุว่า แบตรุ่นใหม่ทำให้การบำรุงรักษาเรือดำน้ำคลาสโซริวทำได้ง่ายขึ้น และทำให้มีรัศมีทำการเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ทำให้มีราคาแพงกว่าเดิม โดยเรือดำน้ำโอริวนั้นมีราคาถึง 608 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท

ขณะที่เรือดำน้ำคลาสโซริวรุ่นก่อนนั้นมีราคาอยู่ที่ 488 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ JSDF อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ที่สามารถควบคุมเรือดำน้ำได้โดยไม่ต้องใช้มนุษย์ เพื่อนำไว้ใช้รับมือกับข้าศึกด้วย

โครงการพัฒนาเอไอดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาภายใต้รหัสการพัฒนาว่า CLAWS นำมาใช้การเรือดำน้ำคลาสออร์กา เพื่อสร้างโดรนเรือดำน้ำ พร้อมเขี้ยวเล็บเป็นตอร์ปิโด 12 ลูก แต่รายละเอียดของโครงการอื่นยังถูกปิดเป็นความลับขั้นสุดยอด