องค์การอนามัยโลก: – วันที่ 14 มี.ค. บีบีซี รายงานสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ก่อโรคโควิด-19 ว่า องค์การอนามัยโลก หรือฮู ของสหประชาชาติ ประกาศว่า ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสดังกล่าวตอนนี้มาอยู่ในยุโรป จากต้นตอแรกของการระบาดที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางของจีน เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการฮู แถลงว่า จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 132,500 คน ใน 123 ประเทศทั่วโลก เสียชีวิตราว 5,000 ราย ซึ่งผู้อำนวยการฮูระบุเป็นขั้นวิปโยค (a tragic milestone)
ขณะที่เว็บไซต์ศูนย์วิศวกรรมและระบบวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัย จอห์นส์ ฮอพกินส์ สหรัฐอเมริกา รายงานยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดที่ 137,445 คน เสียชีวิตแล้ว 5,088 ราย
“ตอนนี้ยุโรปกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่แล้ว ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตทั่วโลกรวมกันยกเว้นจีน และจำนวนผู้ติดเชื้อในยุโรปเพิ่มขึ้นทุกวัน มากกว่าในจีนที่อยู่ในจุดสูงสุดของการระบาด”
นพ.ทีโดรสยังขอให้ประเทศต่างๆ ใช้มาตรการเชิงรุก การระดมชุมชน (community mobilisation) และการปลีกตัวจากสังคม (social distancing) เพื่อรักษาชีวิต และอย่าปล่อยให้การระบาดนี้กลายเป็นเพลิงไหม้
ถ้อยแถลงของผู้อำนวยการฮูมีขึ้น หลังจากบรรดาประเทศในยุโรปรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในรอบ 24 ชั่วโมง ในยุโรปมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 250 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,266 ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อ 17,660 คน
อิตาลีซึ่งประกาศมาตรการปิดประเทศยังเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในยุโรป ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 15,113 คน และจำนวนผู้เสียชีวิต 1,016 ราย
ส่วนอันดับสองในยุโรปคือสเปน จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมง เพิ่มอีกร้อยละ 50 ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 122 ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4,334 คน ทำให้นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แถลงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับประเทศ ซึ่งจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. เป็นเวลา 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ มีประเทศในยุโรปอย่างน้อย 9 แห่ง รวมถึงสาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย ออสเตรีย ยูเครน และฮังการี ประกาศปิดพรมแดน ขณะที่เบลเยียม ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และบางส่วนของเยอรมนี เป็นประเทศล่าสุดที่มีการปิดโรงเรียน
